เกิดเป็นตัวสำรองร่ำไปเหมือนอย่าง “เจ้าชายแฮรี” ไร้ความก้าวหน้าในอนาคต ต่อให้พยายามเท่าไหร่ก็ไปไม่ถึงดวงดาว มันย่อมทำให้จิตตกคับแค้นใจได้ไม่ยาก แต่ถ้าถูกวางตัวไว้เป็นรัชทายาทมาแต่อ้อนแต่ออก เช่น “เจ้าชายจอร์จ” ใครๆก็กรอกหูว่าโตขึ้นต้องเป็นกษัตริย์อังกฤษ แล้วจู่ๆมีแม่หมอแม่นๆ มาทำนายว่า เจ้าชายน้อยจะไม่ได้ครองบัลลังก์ เสียเวลาฟูมฟักเปล่าๆ คนเป็นพ่อแม่คงหงุดหงิดใจน่าดู
ก็เพราะ “เจ้าชายจอร์จ” ทรงโตมาท่ามกลางความสนใจของผู้คน พร้อมพ่วงตำแหน่งรัชทายาทอันดับสามติดตัวมาตั้งแต่เกิด แรงกดดันต่างๆจึงถาโถมเข้าใส่โดยไม่รู้ตัว แม้จะยังอ่อนเยาว์อยู่มาก มีชันษาเพียง 6 ชันษา ทั้งพระบิดา “เจ้าชายวิลเลียม” และพระมารดา “ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์” ก็ทรงกรอกหูพระโอรสทุกวันว่าวันหนึ่งในอนาคตอาจจะได้เป็นกษัตริย์ ถ้าพูดให้สวยหรูคือเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่ต้องเตรียมลูกให้พร้อมสำหรับบทบาทสำคัญในอนาคต มิได้จะสอนให้ชิงดีชิงเด่นเลยสักนิด
ตามรายงานข่าวของสื่ออังกฤษ “Closer Weekly” ระบุว่า ทั้งเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงเคทเริ่มสอนให้พระโอรสเข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ในฐานะองค์รัชทายาทมาสักพักแล้ว เพื่อเตรียม “เจ้าชายจอร์จ” ให้พร้อมสำหรับการเป็นกษัตริย์ในอนาคต แม้แต่ “เจ้าหญิงชาร์ลอตต์” พระธิดาองค์รอง ก็ได้รับการถ่ายทอดถึงบทบาทที่เหมาะสมในฐานะรัชทายาทอันดับสี่ของวินด์เซอร์ โดยใช้หนังสือนิทานเป็นเครื่องมือในการอธิบายให้เด็กๆเข้าใจง่ายขึ้น ระหว่างการเล่านิทานก่อนนอน “เจ้าชายวิลเลียม” จะทรงพยายามสอดแทรกบทบาทหน้าที่ของความเป็นพระราชวงศ์ให้พระโอรสพระธิดาได้ซึมซับผ่านตัวละครต่างๆ
...
แหล่งข่าวใกล้ชิดยืนยันว่า “เจ้าชายจอร์จ” ทรงตระหนักดีว่าพระองค์มีความพิเศษเหนือใคร และวันหนึ่งจะได้เป็นกษัตริย์อังกฤษ จึงไม่น่าแปลกใจที่เจ้าชายน้อยจะโตมาเป็นเด็กมั่นใจในตัวเองสูง และค่อนข้างเอาแต่ใจ ขณะที่ “เจ้าหญิงชาร์ลอตต์” ก็กล้าแสดงออกและชอบเข้าสังคมมาก
กระนั้น ตามประสาสื่ออังกฤษที่ช่างหาประเด็นขุดคุ้ย “Closer Weekly” ไปถามแม่หมอจิตสัมผัส “อลิสัน วาร์ด” ผู้เชี่ยวชาญด้านการอ่านคลื่นพลังจิตและวิเคราะห์ภาษากาย ถึงอนาคตของ “เจ้าชายจอร์จ” ปรากฏว่าแม่หมอแม่นๆฟันธงว่า “เจ้าชายจอร์จ” ดูภายนอกเหมือนเป็นเด็กเซนซิทีฟอ่อนไหวง่าย แต่ลึกๆแล้วทรงมีสัญชาตญาณไว สามารถประเมินเหตุการณ์ต่างๆได้เก่ง ทรงมีความเป็นผู้นำในตัวเอง แต่ได้รับผลกระทบจากพลังงานลบรอบตัว ทำให้มักแสดงสีหน้ากังวลใจ หน้านิ่วคิ้วขมวด ตรงกันข้ามกับ “เจ้าหญิงชาร์ลอตต์” แม้ดูภายนอกจะอ่อนไหวง่ายเหมือนกัน แต่ลึกๆแล้วเจ้าหญิงมีความมั่นอก มั่นใจและแน่วแน่กว่าเจ้าชายมาก เมื่อถามแม่หมอว่า เห็นอนาคตของเจ้าชายจอร์จไหม แม่หมอชี้ว่า จนถึงขณะนี้ยังมองไม่เห็นภาพเจ้าชายจอร์จได้นั่งบัลลังก์เป็นกษัตริย์!!
แม้ความแตกแยกในราชวงศ์จะสั่นคลอนความมั่นคงของสถาบันกษัตริย์อังกฤษมาอย่างต่อเนื่อง จนเกิดคำถามมากมายถึงอนาคตของวินด์เซอร์ อย่างไรก็ดี จากโพลสำรวจล่าสุดของ YouGov เมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา บ่งชี้ว่า “เจ้าชายวิลเลียม” ทรงได้รับโหวตให้เป็นพระราชวงศ์ป๊อปปูลาร์ที่สุดด้วยคะแนนสูงถึง 81% แซงหน้าพระอัยยิกา “ควีนเอลิซาเบธที่สองแห่งอังกฤษ” ไปหนึ่งเปอร์เซ็นต์ ขณะที่ “เจ้าหญิงเคท” ได้คะแนนนิยมตามมาเป็นอันดับสามที่ 76% ต่อด้วยอันดับสี่คือ “เจ้าชายแฮรี” 71% ส่วน “เมแกน มาร์เคิล” ตัวปัญหาของราชวงศ์ มีคะแนนนิยมต่ำสุด 35% โค่นแชมป์เก่าขาลงอย่างเจ้าฟ้าชายแอนดรูว์และดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ ไปขาดลอย.
มิสแซฟไฟร์