ออสเตรียปิดห้ามใครเข้า-ออกโรงแรมในอินส์บรุค หลังพบผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 สองรายแรก และคนหนึ่งเป็นพนักงานต้อนรับของโรงแรม
เมื่อ 26 ก.พ. 63 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ทางการออสเตรีย ซึ่งมีชายแดนติดกับประเทศอิตาลี ออกมายืนยันว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ COVID-19 (โควิด-19) 2 รายแรกในประเทศ ทำให้เมื่อวันอังคารที่ 25 ก.พ.มราผ่านมา ทางออสเตรียมีคำสั่งให้ปิดโรงแรม ในเมืองอินส์บรุค ซึ่งเป็นในสถานที่ที่ผู้ติดเชื้อทำงานอยู่ เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา
ทางการระดับภูมิภาคของออสเตรีย เผยว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้ง 2 ราย เป็นคู่รักชาวอิตาลี วัย 24 ปี ที่เดินทางไปยังเมืองเบอร์กาโม ในแคว้นลอมบาร์เดียทางตอนเหนือของอิตาลี ซึ่งเป็นแคว้นที่พบผู้ติดเชื้อมากสุดในอิตาลี ก่อนทั้งสองจะเดินทางกลับมายังเมืองอินส์บรุค เมืองเอกของรัฐทีโรล ทางตะวันตกของออสเตรีย
เจ้าหน้าที่ระบุว่า หญิงที่ติดเชื้อทำงานเป็นพนักงานต้อนรับที่โรงแรมแห่งหนึ่งในอินส์บรุค ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้สั่งปิดและไม่อนุญาตให้ใครเข้า-ออกภายในโรงแรมดังกล่าว และดำเนินการทดสอบอย่างละเอียด เพื่อให้เเน่ใจว่ามีผู้ได้รับเชื้อเพิ่มเติมหรือไม่
...
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ออสเตรีย ปฏิเสธที่จะเปิดเผยชื่อและที่ตั้งของโรงแรมดังกล่าว ขณะที่แหล่งข่าวท้องถิ่นยืนยันว่าเป็น โรงแรมแกรนด์โฮเทลยูโรปา ซึ่งมีห้องพักทั้งหมด 108 ห้อง นอกจากนี้ในคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ออสเตรียมีคำสั่งให้ปิดการเดินทางโดยรถไฟระหว่างเยอรมนีและอิตาลี เนื่องจากมีผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2 ราย ในจำนวนผู้โดยสารประมาณ 300 คนบนรถไฟเที่ยวนี้ อย่างไรก็ตาม ภายหลังการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 รายดังกล่าว ไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19 แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม นายเซบาสเตียน เคิร์ซ นายกรัฐมนตรีออสเตรีย ระบุว่า จะมีการดำเนินการในลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง หากมีผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เดินมาถึงชายแดนของออสเตรีย ทั้งนี้เพื่อเป็นมาตรการการยับยั้งและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค