ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) ออกมาเตือนชาวอเมริกันให้เตรียมรับมือการแพร่กระจายของไวรัส โควิด-19 ในประเทศ ที่จะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า ดร. แนนซี เมสซอนแนร์ ผู้อำนวยการศูนย์โรคทางเดินหายใจและการก่อภูมิคุ้มกันแห่งชาติ (NCIRD) ซึ่งอยู่ในสังกัดของ CDC กล่าวระหว่างการประชุมทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวในวันอังคารที่ 25 ก.พ. 2563 ว่า ให้ชาวอเมริกันเตรียมรับมือกับการระบาดที่กำลังจะเกิดขึ้น

“เรากำลังขอให้สังคมอเมริกันเตรียมตัวสำหรับการระบาดที่อาจจะเลวร้าย” ดร.เมสซอนแนร์กล่าว “แทบไม่ต้องถามแล้วว่าการแพร่กระจายจะเกิดขึ้นในประเทศนี้หรือไม่ แต่ควรถามว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไร ผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอาจเลวร้าย”

ดร. แนนซี เมสซอนแนร์ ผู้อำนวยการศูนย์โรคทางเดินหายใจและการก่อภูมิคุ้มกันแห่งชาติ (NCIRD)
ดร. แนนซี เมสซอนแนร์ ผู้อำนวยการศูนย์โรคทางเดินหายใจและการก่อภูมิคุ้มกันแห่งชาติ (NCIRD)

...

คำเตือนล่าสุดถือเป็นการเปลี่ยนท่าทีของ CDC ที่ก่อนหน้านี้มักแถลงโดยมุ่งเน้นไปที่การพยายามหยุดไวรัสโควิด-19 ไม่ให้เขาสู่ประเทศ และเรื่องการกักกันผู้ที่เดินทางมาจากประเทศจีน โดยจนถึงตอนนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 53 รายในสหรัฐฯ โดย 14 รายถูกตรวจพบในประเทศ ส่วนที่เหลือถูกพบนอกประเทศแต่กำลังรักษาในสหรัฐฯ

นอกจากนี้ CDC ยังร่างมาตรการรับมือต่างๆ ที่โรงเรียนและธุรกิจอาจต้องนำไปใช้ รวมถึงการจัดการจำนวนนักเรียนแต่ละชั้นเรียน หรือใช้การทำธุรกิจหรือศึกษาทางไกลผ่านทางอินเทอร์เน็ต “สำหรับผู้ใหญ่ การทำธุกิจสามารถแทนที่การประชุมต่อหน้า เป็นประชุมผ่านวิดีโอหรือโทรศัพท์ได้ และเพิ่มทางเลือกการทำงานทางไกลให้มากขึ้น” ดร. เมสซอนแนร์กล่าว

เธอเตือนด้วยว่า โรงพยาบาลอาจต้องเลื่อนการผ่าตัดประเภทรอได้ (elective surgeries) และเพิ่มขีดความสามารถในการประชุมผ่านวิดีโอ เพื่อการรักษาคนไข้จากระยะไกล ขณะที่อาจต้องรอนานกว่า 1 ปีที่วัคซีนป้องกันโควิด-19 จะพร้อมใช้งาน

อเล็กซ์ อาซาร์ เลขาธิการสำนักงานบริการมนุษย์และสุขภาพแห่งสหรัฐฯ (HHS)
อเล็กซ์ อาซาร์ เลขาธิการสำนักงานบริการมนุษย์และสุขภาพแห่งสหรัฐฯ (HHS)

ด้านนาย อเล็กซ์ อาซาร์ เลขาธิการสำนักงานบริการมนุษย์และสุขภาพแห่งสหรัฐฯ (HHS) เรียกร้องให้คณะกรรมาธิการของวุฒิสมาชิก อนุมัติงบประมาณจำนวน 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเป็นทุนในการต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ เขาระบุด้วยว่า สหรัฐฯ จำเป็นต้องเพิ่มสต๊อกอุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากากอนามัย ที่ปัจจุบันมีเพียง 30 ล้านชิ้น แต่ที่จริงแล้วเจ้าหน้าที่ต้องการถึง 300 ล้านชิ้น