สถานการณ์โรคโควิด-19 ที่ทำท่าว่าจะสงบลงในสาธารณรัฐประชาชนจีน แต่กลับทวีจำนวนในพื้นที่ต่างๆ นอกประเทศจีนอย่างมากจนน่าตกใจ จำนวนผู้ป่วยทั่วโลกตอนนี้ก็เกือบ 8 หมื่นคน เสียชีวิต 2 พันกว่าคนเข้าไปแล้ว

เสาร์ 22 กุมภาพันธ์ 2563 สาธารณรัฐเกาหลีหรือเกาหลีใต้กลับเป็นประเทศที่โลกกำลังเฝ้าจับตาต่อจากญี่ปุ่น เพราะจำนวนผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นภายในวันเดียวเป็นร้อยคน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลี หรือเคซีดีซี ออกแถลงการณ์ว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น 142 คน ทำให้ผู้ป่วยเกาหลีใต้ตอนนี้มีมากกว่า 346 คนแล้ว

สาเหตุการแพร่ระบาดและทำให้มีผู้ติดเชื้อ 150 คน เพิ่มจำนวน ขึ้นอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วันเพราะผู้ป่วยอายุ 61 ปีซึ่งป่วยโรคโควิด-19 รายที่ 31 ของเกาหลีใต้ไปร่วมกิจกรรมถึง 4 ครั้งในโบสถ์ของลัทธิชินชอนจีในเมืองแทกู แทกูเป็นเมืองใหญ่ของเกาหลีใต้ที่มีประชากรมากถึง 2.5 ล้านคน ตอนนี้เคซีดีซีประกาศให้เมืองแทกูเป็นพื้นที่ควบคุมโรคแล้ว นอกจากนั้น สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเกาหลีใต้อย่างเกาะเชจู และเมืองปูซานก็พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เรื่องนี้สั่นสะเทือนเกาหลีใต้ทั้งประเทศ

โรคโควิด-19 มีทีท่าจะยังไม่จบง่าย จากการที่ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกออกมาพูดเมื่อวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ว่าเชื้อโควิด-19 สามารถระบาดได้ในทุกทิศทาง โอกาสที่จะคุมอยู่ใกล้จะหมดลง และถ้าควบคุมให้โควิด-19 หยุดระบาดไม่ได้ โลกจะเจอปัญหาที่หนักหนาสาหัส

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้โลกปั่นป่วนอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อนในประวัติศาสตร์โลกสมัยใหม่ นอกจากเรื่องการคว่ำบาตรทางการเมืองระหว่างประเทศแล้ว ผู้อ่านท่านจะไม่เคยเห็นประเทศต่างๆ ปิดประตูใส่คนต่างชาติที่ต้องการเดินทางมาประเทศของตนแบบเหมารวม วิกฤติโควิด-19 อิสราเอลประกาศอย่างเป็นทางการ ห้ามคนต่างชาติที่มาจากจีน สิงคโปร์ มาเก๊า ฮ่องกง และไทย ในช่วง 14 วันที่ผ่านมาเข้าประเทศ

...

บาห์เรนก็ห้ามคนต่างชาติทุกสัญชาติที่เคยเดินทางไปอิหร่าน สิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลีใต้ และไทย ภายใน 14 วันก่อนหน้าเดินทางเข้ามาประเทศของตัว

แค่นักท่องเที่ยวทั่วโลกงดเดินทาง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของบ้านเราก็ย่ำแย่เต็มทน ยิ่งเจอมาตรการห้ามเข้าประเทศ แถมมีทีท่าว่าชาติอื่นๆ ที่โรคโควิด-19 ยังไม่ระบาดหนักก็อาจจะพิจารณาใช้มาตรการนี้เพื่อระงับการระบาดภายในประเทศของตนด้วย ถ้าเป็นอย่างที่ว่า งานนี้เศรษฐกิจไทยอาจจะเข้าขั้นโคม่าเร็วขึ้น

เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 อาจจะมีอำนาจทำลายล้างสูงกว่าระเบิดปรมาณู เพราะมีผู้เสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินกระจายวงกว้างไปในทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศหรือไอเอทีเอ ประกาศว่าจากผลกระทบจากโรคโควิด-19 ใน พ.ศ.2563 ทำให้สายการบินในเอเชีย-แปซิฟิกอาจสูญเสียรายได้รวมกันมากถึง 2.78 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 8.77 แสนล้านบาท เพราะสายการบินทั่วโลกยกเลิกเที่ยวบินไปจีน

เฉพาะสายการบินภายในประเทศของจีนก็คาดว่าจะสูญเสียรายได้ไม่ต่ำกว่า 1.28 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 4.03 แสนล้านบาท และถ้ารวมความเสียหายที่เกิดกับสายการบินนอกภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกอีก 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 4.7 หมื่นล้านบาท รวมทั้งในและนอกภูมิภาค สายการบินทั่วโลกจะเสียหายมากถึง 2.93 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 9.24 แสนล้านบาท

มีประชากรโลกจำนวนมากที่อยู่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เมื่อต้นน้ำแห้งเหือด ปลายน้ำก็ย่อมแล้งตามไปด้วย

ตอนนี้นักเศรษฐศาสตร์ทั่วโลกง่วนกับการวิเคราะห์ผลกระทบของโรคโควิด-19 ที่กำลังระบาดออกมาเป็นตัวเลขในทุกมิติ แต่ผู้อ่านท่านครับ แค่เฉพาะธุรกิจการบินก็คาดว่าจะเสียหายมากเกือบจะล้านล้านบาทเข้าไปแล้ว นี่ยังไม่รวมภาคธุรกิจอื่นที่ทยอยปิดตัวลงทั้งในและนอกประเทศจีน

ท่านพอจะเห็นอนาคตที่กำลังรออยู่ไหมครับ.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com