ชาวเมืองแทกู ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อับดับ 4 ของเกาหลีใต้ เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน หลังจากมีรายงานผู้ติดเชื้อในเมืองแห่งนี้แล้วหลายสิบราย โดยมีต้นตอมาจากลัทธิแห่งหนึ่ง

สำนักข่าว รอยเตอร์ส รายงานว่า สภาพของเมืองแทกู เมืองใหญ่อันดับที่ 4 ของประเทศเกาหลีใต้ ในวันพฤหัสบดีที่ 20 ก.พ. 2563 แทบจะร้างผู้คน เนื่องจากประชาชนเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน หลังจากมีรายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ หรือ โควิด-19 ในเมืองแห่งนี้แล้วหลายสิบราย เพราะเหตุการณ์แพร่กระจายของเชื้ออย่างรวดเร็วที่ โบสถ์ ‘ชินชอนจิ’ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มลัทธิ

รอยเตอร์สระบุว่า ห้างสรรพสินค้าและโรงภาพยนตร์ในเมืองแทกู ซึ่งมีประชากรถึง 2.5 ล้านคน มีสภาพเงียบเหงา แม้แต่บนท้องถนนก็แทบไม่มีผู้คนออกมาเดิน มีเพียงภาพของเจ้าหน้าที่ซึ่งออกปฏิบัติการฉีดยาฆ่าเชื้อตามที่ต่างๆ คล้ายกับสภาพของเมืองหลายแห่งในประเทศจีนที่กำลังเผชิญการระบาดอย่างหนักของไวรัสโควิด-19

นายคิม กอน-วู ชาวเมืองแทกูวัย 28 ปี บอกกับรอยเตอร์สทางโทรศัพท์ว่า สภาพของแทกูตอนนี้ เหมือนกับว่ามีใครทิ้งระเบิดลงมากลางเมือง “สภาพมันเหมือนกับเหตุการณ์ซอมบี้ระบาดเมืองเลย”

...

เมืองแทกูกลายสภาพเป็นเหมือนเมืองร้าง หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นเป็น 104 รายในวันพฤหัสบดี และกว่า 70 รายอยู่ที่เมืองแทกู ขณะที่ นายควอน ยอง-จิน นายกเทศมนตรีเมืองแทกูประกาศเตือนประชาชนให้อยู่แต่ในบ้าน หลังจากสมาชิกโบสถ์ชินชอนจิกว่า 90 คนเริ่มแสดงอาการป่วยคล้ายกับผู้ติดเชื้อ และมีการยืนยันแล้วว่า ผู้ป่วยรายใหม่หลายสิบคนเป็นสมาชิกของโบสถ์นี้

ตามการเปิดเผยของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้ (KCDC) เชื้อโควิด-19 เริ่มแพร่กระจายภายในโบสถ์จากหญิงวัย 61 ปีคนหนึ่งซึ่งมาประกอบกิจกรรมทางศาสนา ก่อนจะถูกตรวจพบว่าเธอติดเชื้อไวรัสมรณะตัวนี้ และกลายเป็นที่คนไข้ลำดับ 31 ของเกาหลีใต้ โดยเธอถูกสงสัยว่าเป็นผู้ทำให้เชื้อแพร่กระจายไปยังสมาชิกโบสถ์กว่า 1,000 คน ซึ่งทั้งหมดถูกทางการขอให้กักตัวเองเป็นเวลา 14 วันเพื่อควบคุมการระบาดแล้ว

“เรากำลังอยู่ในวิกฤติที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” นายควอนบอกกับรอยเตอร์ส พร้อมทั้งเสริมว่า สมาชิกโบสถ์ชินชอนจิทุกคนจะต้องเข้ารับการตรวจ และพวกเขาจะขอให้สมาชิกโบสถ์ถูกกักตัวแยกเดี่ยวจากครอบครัวด้วย.