ผอ.องค์การอนามัยโลก (WHO)เสียใจสุดซึ้ง หลิว จื้อหมิง ผอ.โรงพยาบาลในอู่ฮั่น เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนา ‘โควิด-19’ คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนยกย่องสร้างคุณูปการยิ่งใหญ่ในการป้องกันการระบาด

เมื่อ 19 ก.พ.63  สำนักข่าวซินหัวรายงาน นายเทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส (Tedros Adhanom Ghebreyesus) ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้แสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของนายหลิว จื้อหมิง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในนครอู่ฮั่น เมื่อวันอังคารที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) 

“ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของนายแพทย์หลิวจื้อหมิง เพื่อนร่วมงาน ตลอดจนผู้ป่วย ต่อความสูญเสียครั้งใหญ่นี้” ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ทวีตข้อความเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ภาพจากสำนักข่าวซินหัว : นายแพทย์ หลิว จื้อหยาง ผอ.โรงพยาบาลในนครอู่ฮั่น เสียชีวิตในวัย 51 ปี จากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา ‘โควิด-19’
ภาพจากสำนักข่าวซินหัว : นายแพทย์ หลิว จื้อหยาง ผอ.โรงพยาบาลในนครอู่ฮั่น เสียชีวิตในวัย 51 ปี จากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา ‘โควิด-19’

...

นายเทดรอส ระบุว่านายแพทย์หลิว “ได้ช่วยรักษาชีวิตและทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนในเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซาบซึ้งใจ” พร้อมระบุว่า “ผมขอแสดงความอาทรของผมต่อพวกเขา รวมถึงบรรดาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ปฏิบัติหน้าที่ต้านไวรัสในแนวหน้า”

ด้านคณะกรรมการสาธารณสุขจีนได้ประกาศคำสดุดีนายแพทย์หลิว วัย 51 ปี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอู่ชางในนครอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ทางตอนกลางของจีน ต่อการสร้างคุณูปการอันยิ่งใหญ่แก่การป้องกันและควบคุมโรคระบาดในอู่ฮั่น พร้อมทั้งได้นำบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนของโรงพยาบาลฯ ปฏิบัติงานแนวหน้าเพื่อต่อสู้กับโรคระบาด

ทั้งนี้ เมื่อนับถึงวันที่ 11 ก.พ.63 มีรายงานเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จีนที่ติดเชื้อไวรัสรวม 1,716 ราย และมีเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิต 6 ราย

นอกจากนี้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก ได้ออกคำแนะนำเกี่ยวกับสิทธิ์ บทบาท และความรับผิดชอบของผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพ นับเป็นการเคลื่อนไหวล่าสุดเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัส โดยย้ำถึงสิทธิ์และความรับผิดชอบของผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพ ตลอดจนมาตรการเฉพาะที่ต้องใช้เพื่อปกป้องความปลอดภัยและสุขภาพในการปฏิบัติงานของคนกลุ่มนี้

คำแนะนำดังกล่าวซึ่งระบุว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเป็นกลุ่มคนที่อยู่ในแนวหน้าต่อสู้กับโรคระบาด ชี้ว่าภัยอันตรายต่างๆ ซึ่งรวมถึงการสัมผัสกับเชื้อโรค จำนวนชั่วโมงทำงานที่ยาวนาน ปัญหาสุขภาพจิต ความเหน็ดเหนื่อย ความเหนื่อยล้าจากภาระหน้าที่ การถูกตีตรา และความรุนแรงทางร่างกายและจิตใจ

คำแนะนำระบุว่า นายจ้างของสถานพยาบาล ควรมีความรับผิดชอบโดยรวม ในการรับประกันมาตรการปกป้องและป้องกันที่จำเป็นทั้งหมด เพื่อลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยทางวิชาชีพ และเพื่อให้เจ้าหน้าที่คุ้นเคยกับการปรับปรุงข้อมูลทางเทคนิคใหม่ๆ เกี่ยวกับไวรัส และพร้อมแบ่งปันข้อมูลการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อกับผู้ป่วยและประชาชน

นายจ้างยังควรสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไร้ซึ่งการกล่าวโทษกัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถรายงานอุบัติเหตุต่างๆ อาทิ การสัมผัสกับเลือดหรือของเหลวจากระบบทางเดินหายใจหรือกรณีการใช้ความรุนแรง และเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถใช้มาตรการติดตามผลแบบเร่งด่วน อันรวมถึงการช่วยเหลือเหยื่อด้วย

นอกจากนั้น คำแนะนำยังกำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขปฏิบัติตามขั้นตอนการรายงานด้านสาธารณสุขที่กำหนดไว้ เมื่อพบผู้ป่วยต้องสงสัยหรือผู้ป่วยยืนยันผล พร้อมทั้งจัดการหรือเสริมสร้างการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อและข้อมูลด้านสาธารณสุขที่แม่นยำ