ชาวอิหร่านออกมารวมตัวประท้วงแสดงความไม่พอใจในผู้นำรัฐบาลเป็นวันที่ 2 หลังจากกองทัพยอมรับว่า พวกเขายิงเครื่องบินโดยสารของยูเครนตกโดยไม่ตั้งใจ จนมีผู้เสียชีวิต 176 ราย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การชุมนุมเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 ม.ค. 2563 นับเป็นวันที่ 2 ของการประท้วงต่อต้านรัฐบาลอิหร่าน โดยประชาชนทยอยออกมาชุมนุมมากขึ้น ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาของเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ทั้งตำรวจปราบจลาจล, หน่วยพิเศษของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน และเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ
ผู้ประท้วงออกมาชุมนุมกันตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ในกรุงเตหะราน ที่จัตุรัสอาซาดี และในเมืองอื่นๆ โดยคลิปวิดีโอหนึ่งแสดงให้เห็นว่า กลุ่มนักศึกษาผู้ประท้วง ไม่ยอมเดินเหยียบภาพวาดรูปธงชาติสหรัฐฯ และอิสราเอล บนพื้นมหาวิทยาลัย ชาฮิด เบเฮชติ ซึ่งนับเป็นการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์สื่อถึงการปฏิเสธโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ยังมีคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นผู้ชุมนุมตะโกนสโลแกนต่อต้านรัฐบาลหลายอย่างรวมถึง “พวกเขาโกหกเราว่าศัตรูคืออเมริกา แต่ศัตรูของเราอยู่ที่นี่”
...
ทั้งนี้ กลุ่มนักศึกษาอิหร่าน เริ่มการประท้วงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากรวมตัวกันเพื่อไว้อาลัยแก้ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ เครื่องบินโดยสารของยูเครนตก จนชาวอิหร่านเสียชีวิตไปกว่า 83 ราย เนื่องจากไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลไม่ยอมรับตั้งแต่แรกว่ากองทัพเป็นฝ่ายยิงเครื่องบินลำนี้จนตก แต่กลับโทษว่าเป็นเพราะเครื่องยนต์ขัดข้อง และตะโกนขับไล่สมาชิกระดับผู้นำรัฐบาล รวมทั้งผู้นำสูงสุด อยาตอลเลาะห์ คาเมเนอี ด้วย
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา คู่อริของอิหร่าน ก็ไม่พลาดที่จะออกมาผสมโรงในเรื่องนี้ โดยประกาศสนับสนุนผู้ประท้วง และทวีตข้อความเตือนรัฐบาลอิหร่านว่า อย่าเข่นฆ่าประชาชน “ถึงเหล่าผู้นำอิหร่าน - อย่าได้เข่นฆ่าผู้ประท้วงของคุณ - คนนับพันถูกฆ่าหรือถูกพวกคุณคุมขังไว้แล้ว และโลกกำลังจับตามอง ที่สำคัญกว่าคือ สหรัฐฯ กำลังจับตามองอยู่ เปิดอินเทอร์เน็ตกลับมา และปล่อยให้นักข่าวทำงานอย่างอิสระ! หยุดเข่นฆ่าชาวอิหร่านผู้ยิ่งใหญ่ของพวกคุณเสีย!”