สื่อสหรัฐฯ เผย เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองเชื่อว่า อิหร่านเป็นผู้ยิงเครื่องบินโดยสารของยูเครนจนตกโดยไม่ตั้งใจ และมิสไซล์ที่ใช้อาจเป็นของรัสเซีย
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2563 สำนักข่าวสหรัฐฯ หลายสำนักรายงานเป็นเสียงเดียวกันโดยอ้างการเปิดเผยจากแหล่งข่าวในหน่วข่าวกรองสหรัฐฯ ว่า อิหร่านยิงมิสไซล์ใส่เครื่องบินโดยสาร โบอิ้ง 737-800 ของสายการบิน ‘ยูเครเนียน อินเทอร์เนชันนัล’ (UIA) จนตกโดยไม่ได้ตั้งใจ

...
สำนักข่าว ซีบีเอส นิวส์ รายงานอ้างคำพูดของแหล่งข่าวในหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ระบุว่า ดาวเทียมสามารถตรวจจับสัญญาณอินฟาเรด 2 จุดของ มิสไซล์ 2 ลูกได้ในจอเรดาร์ ตามด้วยสัญญาณอีก 1 จุดของการระเบิด ซึ่งเจ้าหน้าที่มั่นใจว่าอิหร่านยิงเครื่องบินลำนี้จนตกโดยไม่ตั้งใจ
ขณะที่สำนักข่าว นิวส์วีค รายงานอ้างแหล่งข่าวในหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ กับอิรักว่า พวกเขาเชื่อว่า โบอิ้ง 737 ลำนี้ถูกยิงจนตกด้วยระบบมิสไซล์ภาคพื้นสู่อากาศ ‘Tor M-1’ (ทอร์ เอ็ม-วัน) ที่ผลิตโดยรัสเซีย ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าระบบมิสไซล์ต่อต้านอากาศยานของอิรักยังทำงานอยู่หลังโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในอิรัก ทำให้จรวดถูกยิงออกไปยังเครื่องบินลำนี้ที่บินผ่านมา

ด้านประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวในประเด็นนี้ว่า “ผมสงสัยอยู่ มันเป็นโศกนาฏกรรมจริงๆ แต่ใครบางคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอาจทำผิดพลาดขึ้น บางคนบอกว่า นี่เป็นการขัดข้องทางเทคนิค แต่โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องตั้งคำถามเลย โดยส่วนตัวนะ และเราจะได้เห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
ก่อนหน้านี้ นายโอเลกซี ดานีลอฟ เลขาธิการสภากลาโหมและความมั่นคงของยูเครน โพสต์บนเฟซบุ๊กว่า พวกเขากำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ 4 ข้อที่ทำให้โบอิ้งลำนี้ตกคือ 1. ถูกมิสไซล์ยิง เนื่องจากพบมิสไซล์ตกอยู่ใกล้จุดตก, 2. ชนกลางอากาศกับโดรนหรือวัตถุบินอย่างอื่น, 3. เครื่องยนต์ระเบิดจากปัญหาทางเทคนิค และ 4. เกิดระเบิดจากภายในเครื่องบินฝีมือการก่อการร้าย
อย่างไรก็ตาม อิหร่านตัดความเป็นไปได้เรื่องที่เครื่องบินจะถูกยิงด้วยมิสไซล์จนตก โดยอาลี อาเบดซาเดห์ หัวหน้าองค์กรการบินพลเรือนอิหร่านระบุว่า มีพยานเห็นว่าไฟลุกไหม้เครื่องบินตั้งแต่ก่อนที่เครื่องตก แต่นักบินไม่ได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ และพยายามจะบินกลับไปท่าอากาศยานอิหม่าม โคเมนี แต่เครื่องตกเสียก่อน