‘ฟินแลนด์’ ประเทศเล็กๆ แต่เป็นชาติพัฒนาแล้ว ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยุโรป ได้รับการกล่าวขานในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในฐานะเป็นประเทศที่ได้รับการยอมรับว่า มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลกอย่างต่อเนื่อง

ทำไม ฟินแลนด์ ที่มีประชากรแค่ราว 5.52 ล้านคน จึงสามารถพัฒนาระบบการศึกษาในประเทศของตนได้อย่างยอดเยี่ยม จนมีผลสัมฤทธิ์สูงสุดในโลกเช่นนี้

ที่สำคัญ คำตอบ..คงยิ่งทำให้เด็กๆ ทั่วโลกใฝ่ฝันอยากให้ระบบการศึกษาในประเทศของตัวเองเป็นเช่นดั่งฟินแลนด์ ที่ปฏิรูปการศึกษาแบบก้าวหน้า จนประสบความสำเร็จ ชนิดบรรดาบุคลากรในแวงวงการศึกษาจากทั่วโลกต้องไปดูงาน...

*เรียนฟรี ตั้งแต่อนุบาล-ปริญญาเอก

ทางการฟินแลนด์คำนึงถึงความเสมอภาคทางการศึกษาของเด็กๆ อย่างมาก เพราะตระหนักอย่างแท้จริงว่า ความเหลื่อมล้ำทางสังคมคืออุปสรรคสำหรับเด็กๆ ที่เกิดมาด้อยโอกาส ด้วยเหตุนี้รัฐบาลฟินแลนด์จึงต้องการให้เด็กในประเทศทุกๆ คนได้รับความเท่าเทียมกันทางการศึกษา ด้วยการให้เด็กเรียนฟรีตั้งแต่ชั้นอนุบาลไปจนถึงระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอกกันเลยทีเดียว

...

*ระบบการศึกษาในฟินแลนด์ เริ่มดูแลเด็กตั้งแต่เด็กวัย 8 เดือน

การศึกษาถือเป็นส่วนสำคัญที่แข็งแกร่งของวัฒนธรรมในฟินแลนด์ เมื่อพ่อแม่ผู้ปกครองไม่ต้องห่วงพะวงกับการหาเงินค่าเทอม ค่าอุปกรณ์การเรียนของลูก ก็ทำให้ความเครียดในครอบครัวน้อยลง เด็กๆ ก็มีสุขภาพจิตดี มีความสุข..พอไปถึงโรงเรียนยิ่งมีความสุขมากขึ้นอีก เพราะบรรยากาศในโรงเรียน ห้องเรียน ไม่ได้เคร่งเครียด ไม่ได้แข่งกันเรียนแบบเอาเป็นเอาตายเพื่อเป็นที่หนึ่ง

ระบบการศึกษาของฟินแลนด์ เริ่มดูแลตั้งแต่เด็กก่อนจะเข้าโรงเรียน จนกระทั่งเติบโตเป็นหนุ่มสาว โดยเริ่มต้นด้วยโครงการ Daycare ดูแลเด็กตั้งแต่วัย 8 เดือน จนถึง 5 ขวบ

พอเด็กอายุ 6 ขวบ จะได้เข้าเรียนในโรงเรียน PreSchool-/Kindergarten เตรียมอนุบาลและอนุบาล และเรียนเป็นเวลา 1 ปี เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียนในระดับประถมศึกษา

เมื่อเด็กอายุ 7 ปี จึงจะเริ่มเข้าเรียนในการศึกษาภาคบังคับ ตั้งแต่เกรด 1 จนถึงเกรด 9 เด็กอายุ 16 ปี รวมใช้ระยะเวลาเรียน 9 ปี ซึ่งถือเป็นการจบการศึกษาภาคบังคับ จากนั้นเด็กต้องการจะเรียนต่อหรือไม่ก็ได้ โดยสามารถเลือกเรียนได้ 2 ทาง คือ โรงเรียนมัธยมปลาย กับโรงเรียนสายอาชีพ

*ปฏิรูประบบการศึกษาให้เด็กเรียนน้อยลง สอบน้อยลง

ขณะที่เด็กๆ ในหลายประเทศ รวมทั้งไทย ถูกเคี่ยวเข็ญให้เรียนหนังสือตั้งแต่เช้ายันเย็น แถมวันหยุดยังต้องไปเรียนพิเศษกวดวิชา ทว่าฟินแลนด์กลับเลือกใช้ระบบการศึกษาที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ด้วยการขอให้เด็กนักเรียนใช้เวลาที่โรงเรียนน้อยลง รวมทั้ง ทำการบ้าน เข้าห้องสอบให้น้อยลง และมันได้ผล!!

เพราะระบบการศึกษาของฟินแลนด์ให้ความสำคัญอย่างแท้จริงกับความสุข ความสนใจของเด็ก โดยต้องการเน้นให้เด็กเล่นมากกว่า เพื่อจะได้สามารถเรียนรู้และค้นพบตนเองว่าชอบอะไร อีกทั้งจะได้มีเวลาเพื่อศึกษาค้นคว้าในสิ่งที่ตัวเองสนใจ รวมทั้งการมีเวลาให้กับครอบครัว ทำให้เด็กเรียนในห้องเรียนน้อยลง ทำการบ้านน้อยลง และสอบน้อยลง เพราะเด็กจะถูกประเมินจากความสามารถในชั้นเรียน ไม่ใช่ผลการสอบ

เด็กในวัยประถมศึกษาในฟินแลนด์ จะเรียนไม่เกินวันละ 5 ชั่วโมง หรือราว 670 ชั่วโมงต่อปี เพราะผู้ใหญ่ในประเทศมองเห็นว่าเด็กควรมีเวลาทำกิจกรรมที่ตัวเองสนใจไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬา เล่นดนตรีมากกว่า เพื่อให้เกิดทักษะความชำนาญมากขึ้น ไม่ใช่มาทนเรียนอะไรมากมายในสิ่งที่ตนเองไม่ชอบ

*ให้ความสำคัญกับครู : อาชีพที่มีศักดิ์ศรี-รายได้สูง

เป็นอะไรที่ดีอย่างเหลือเชื่อ เมื่ออาชีพครู เป็นอาชีพที่มีรายได้ดี จนกลายเป็นหนึ่งในอาชีพที่เยาวชนฟินแลนด์นิยมเรียนมากที่สุด แซงหน้าการเรียนแพทย์ นิติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมศาสตร์เสียอีก

ในขณะเดียวกันกระบวนการคัดเลือกครูก็เข้มงวดอย่างมาก เพื่อต้องการให้บุคคลที่เป็นครูได้รับความไว้วางใจ ผ่านการสัมภาษณ์ด้านศีลธรรม และต้องจบการศึกษาระดับปริญญาโทเท่านั้น

...

นอกจากอาชีพครูในฟินแลนด์จะมีรายได้ดี มีศักดิ์ศรีแล้ว ครูที่สอนในโรงเรียนทั่วไป ยังทำงานสอนหนังสือวันละ 4 ชั่วโมง เพื่อจะได้มีเวลาเตรียมการสอน และมีเวลาให้กับเด็กนักเรียนมากขึ้นนั่นเอง

*ผลลัพธ์ที่ออกมาดีจนอึ้ง

ทั้งที่เด็กในฟินแลนด์ใช้เวลาในชั้นเรียนก็น้อย สอบก็น้อย ทำการบ้านก็น้อย แต่ระบบการศึกษาแบบนี้กลับมีผลเป็นรูปธรรมให้ประจักษ์ โดยข้อมูลจากเว็บไซต์ gpseducation ระบุว่า โครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (Programme for International Student Assesment) หรือ PISA 2018 ระบุว่า เด็กนักเรียนในฟินแลนด์ อายุ 15 ปี ได้คะแนนจากการอ่านสูงถึง 520 คะแนน เมื่อเทียบกับคะแนนเฉลี่ยของเด็กจากประเทศที่พัฒนาแล้วในกลุ่มองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ที่ได้ 487 คะแนน โดยเด็กผู้หญิงอ่านหนังสือเก่งกว่าเด็กชาย

ส่วนคะแนนวิชาคณิตศาสตร์ เด็กฟินแลนด์ 15 ปี ได้คะแนน 507 คะแนน เมื่อเทียบกับเด็กในกลุ่ม OECD ที่ได้คะแนนเฉลี่ย 489 คะแนน และวิชาวิทยาศาสตร์ เด็กฟินแลนด์ ได้ 522 คะแนน ขณะที่เด็กในกลุ่ม OECD ได้คะแนนเฉลี่ยน 489 คะแนน

เหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญบางประการที่ทำให้ระบบการศึกษาในฟินแลนด์ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุด และผลสัมฤทธิ์ยังออกมาแบบสร้างความปลื้มใจให้แก่พ่อแม่ผู้ปกครองครูบาอาจารย์ในฟินแลนด์อย่างยิ่ง.