ฝูงชนอิหร่านนับล้าน ตะโกนสาปแช่งคู่กรณีสั่งสังหารให้พังพินาศ ระหว่างเดินทางเข้าร่วม พิธีศพผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษคุดส์ แห่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามอิหร่าน ที่จัตุรัสเอนเกลับ กรุงเตหะราน รัฐบาลอิหร่านประกาศยุติทำตามเงื่อนไขข้อตกลงนิวเคลียร์ เตรียมพัฒนาขีปนาวุธต่อ ยักษ์ใหญ่ชาติยุโรปหวั่นวิตกเกิดสงครามออกแถลงการณ์ให้ยับยั้งชั่งใจ ด้าน “บิ๊กตู่” สั่งเตรียมแผนอพยพคนไทยเกือบ 300 คน หากเกิดเหตุรุนแรง
ยังเป็นที่จับตาของคนทั่วโลก ในสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกากับประเทศอิหร่าน กรณีประธานาธิบดีสหรัฐฯสั่งโจมตีทางอากาศสังหาร พล.อ.กัสเซม โซไลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษคุดส์ (Quds Force) แห่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามอิหร่าน คีย์แมนหลักในการวางแผนของกองทัพอิหร่านพร้อมพวก 7 คน ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับอิหร่านถึงขั้นเลวร้ายสุดนับตั้งแต่ปี 1979 ที่มีการบุกยึดสถานทูตสหรัฐฯในกรุงเตหะราน จนเกิดความกังวลอาจเป็นสงครามครั้งใหญ่ลุกลามไปทั่วโลก
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่จัตุรัสเอนเกลับ กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 6 ม.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ฝูงชนนับล้านคนเข้าร่วมพิธีศพของ พล.อ.กัสเซม โซไลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษคุดส์ แห่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามอิหร่านและนายอาบู มาห์ดิ อัล-มูฮันดิส ผู้นำกลุ่มติดอาวุธ คาตาอิบ ฮิซโบลเลาะห์ ที่อิหร่านหนุนหลัง โดยมี อยาตุลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านนำพิธีละหมาด ด้วยความเศร้าโศก พิธีศพครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมมากที่สุดนับตั้งแต่พิธีศพของอยาตุลเลาะห์ รูฮัลเลาะห์ โคมัยนี อดีตผู้นำการปฏิวัติอิสลามและผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านในปี 2532 ฝูงชนจำนวนมากต่างร่ำไห้ ตะโกนสาปแช่งอเมริกาจงพินาศ ด้านนายเอสมาอิล กานี ผู้นำกองกำลังคุดส์คนใหม่ สืบแทน พล.อ.กัสเซมประกาศจะแก้แค้นและขับไล่สหรัฐฯออกจากภูมิภาคตะวันออกกลาง ส่วนนางไซนาบ บุตรสาวของ พล.อ.กัสเซม ประกาศว่าสหรัฐฯและอิสราเอลต้องเผชิญวันที่มืดมิด นายโดนัลด์ ทรัมป์ อย่าคิดว่าทุกอย่างจบด้วยการตายของบิดาเธอ ทั้งนี้ ชาวอิหร่านต่างยกย่อง พล.อ.กัสเซม เป็นวีรบุรุษในช่วงสงครามอิรัก-อิหร่าน ทั้งได้ชื่อว่าเป็นผู้นำที่มีอำนาจอันดับ 2 เป็นรองแค่อยาตุลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำทางจิตวิญญาณสูงสุด ศพของ พล.อ.กัสเซมจะถูกส่งไปทำพิธีที่เมืองกอม ก่อนนำไปฝังที่เมืองเคอร์มานบ้านเกิด
...
วันเดียวกัน รัฐบาลอิหร่านประกาศยุติการปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้งหมดในข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ที่ทำไว้กับมหาอำนาจ 6 ชาติ รวมทั้งข้อจำกัดการเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียมและเครื่องหมุนเหวี่ยง อาจทำให้อิหร่านหวนกลับไปพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธอีก ขณะที่สหรัฐฯได้ถอนตัวจากข้อตกลงนี้ตั้งแต่ปี 2561
อีกด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ย้ำคำขู่ว่าอาจโจมตีเป้าหมายสำคัญ 52 แห่งของอิหร่าน รวมทั้งแหล่งวัฒนธรรม หากถูกโจมตีตอบโต้ แม้หลายฝ่ายรวมทั้งสมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯ หลายคนเตือนว่าการโจมตีแหล่งวัฒนธรรมคือการก่ออาชญากรรมสงคราม
ขณะที่ผู้นำประเทศเยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ ร่วมออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยับยั้งชั่งใจและลดความตึงเครียด ขอให้อิหร่านอย่าใช้ความรุนแรงเพิ่มเติม เยอรมนียังขอให้จัดการประชุมรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหภาพยุโรปในสัปดาห์หน้าเพื่อหาทางลดวิกฤติอิหร่าน-สหรัฐฯ ขณะที่รัฐบาลจีนชี้ว่าลัทธิแทรกแซงทางทหารของสหรัฐฯ ทำให้เกิดความตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีขึ้น
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการรับมือสถานการณ์ตึงเครียดครั้งนี้ว่า ติดตามสถานการณ์อยู่ ฝ่ายความมั่นคงและกระทรวงการต่างประเทศรายงานข้อมูลต่างๆเข้ามาทั้งเรื่องความมั่นคง เศรษฐกิจ การต่างประเทศ ตลอด 24 ชม. ที่ต้องให้ความสำคัญเพราะอาจส่งผลต่อภูมิภาคของเรา แม้เป็นประเทศที่อยู่ไกลก็มีผลกระทบทางการค้าและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอาจเกิดผลกระทบกับราคาพลังงานภายในประเทศ ตรงนี้รัฐบาลปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ อยู่ที่ว่าจะแก้ปัญหาได้มากน้อยเพียงใด
“ส่วนการดูแลคนไทยมีมาตรการเฉพาะอยู่แล้ว สั่งการให้ทุกสถานทูตต้องเตรียมแผนอพยพประชาชนไปในพื้นที่ปลอดภัยในขั้นต้นก่อน จากนั้นเป็นเรื่องส่งกลับอาจใช้สายการบินพาณิชย์แบบเช่าเหมาลำหรือเครื่องบินกองทัพอากาศ สิ่งสำคัญสุดคือความปลอดภัย ขอฝากเอกอัครราชทูตและกงสุลต่างๆช่วยดูแลคนไทยให้มากสุด นอกจากนี้ ยังสั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงดูแลสถานทูตและที่สำคัญต่างๆแล้ว” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า สั่งการให้อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) สำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย (กรุงริยาด) ที่รับผิดชอบดูแลแรงงานไทยในประเทศอิหร่านเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ สร้างการรับรู้ประชาสัมพันธ์แจ้งข่าวสารให้แรงงานไทยทั้งสองประเทศรับทราบเป็นระยะและเตรียมแผนอพยพคนไทยหากเกิดสถานการณ์รุนแรง ปัจจุบันมีแรงงานไทยทำงานในประเทศอิหร่าน 257 คน และในประเทศอิรัก 25 คน ส่วนใหญ่ไปทำงานในตำแหน่งช่างเทคนิค งานบริการในสาขาต่างๆ รวมทั้งงานประมง
มีรายงานว่า ระหว่างการถ่ายทอดบรรยากาศพิธีศพ พล.อ.กัสเซม โซไลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษคุดส์ ทางสถานีโทรทัศน์ของทางการอิหร่าน มีชายคนหนึ่งคาดเป็นผู้นำจัดพิธีศพ ประกาศตั้งเงินรางวัลถึง 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2,400 ล้านบาท ให้กับผู้ที่สังหารประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งนี้มีการเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียระบุว่าอิหร่านมีประชากร 80 ล้านคน เมื่อลงขันกันคนละ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ จะได้เงินค่าหัวทรัมป์ 80 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ สำนักข่าวอิหร่าน เลเบอร์ ยังรายงานเมื่อ 5 ม.ค. ว่านายอาโบลฟาซล์ อาบู-โทราบี สมาชิกรัฐสภาคนหนึ่งของอิรัก ได้เตือนว่าอิหร่านสามารถโจมตีทำเนียบขาวในดินแดนสหรัฐฯได้ อิหร่านมีพลังอำนาจและพระเจ้าจะอำนวยพรให้อิหร่านตอบโต้ได้ในเวลาที่เหมาะสม