นายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียถูกชาวบ้านรุมด่าไม่ใส่ใจแก้ปัญหาไฟป่าเหมือนเมืองใหญ่ๆอย่างซิดนีย์ เหตุเกิดขึ้นเมื่อ 2 ม.ค. ขณะนายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียลงพื้นที่ติดตามภารกิจการดับไฟป่าในเขตเมืองชนบท “โคบาร์โก” รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 2 คนเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ หลายคนสูญเสียบ้านไปกับไฟป่า มอร์ริสันถูกกลุ่มชาวบ้านเข้ามารุมด่าอย่างไม่ไว้หน้า และมีชายคนหนึ่งชูนิ้วกลางให้ พร้อมตะโกนบอกว่าที่นี่ไม่ต้อนรับ

ทั้งนี้ชาวบ้านวิจารณ์ความไม่พร้อมด้านเครื่องมือดับไฟป่าในพื้นที่ ถ้าเป็นเมืองใหญ่ๆ อย่างนครซิดนีย์และเมืองใหญ่อื่นๆคงได้รับการดูแลดีกว่านี้ และด้วยการต้อนรับของคนพื้นที่ไม่ดีนัก นายมอร์ริสันและทีมงานต้องออกจากพื้นที่เร็วกว่ากำหนด นายมอร์ริสันกล่าวในเวลาต่อมาว่าไม่แปลกใจและเข้าใจอารมณ์ของชาวบ้าน เพราะไม่เหลืออะไรเลยจากเหตุไฟป่า

นายกฯมอร์ริสัน ยังมีภารกิจต่อโดยไปเยี่ยมนักดับเพลิงที่เมืองความา รัฐนิวเซาท์เวลส์เช่นกันและได้รับการตอบรับไม่ดีเหมือนกัน นักดับเพลิงคนหนึ่งไม่ยอมจับมือด้วย นายมอร์ริสันต้องเอามือเข้าไปจับมือและตบที่หัวไหล่นักดับเพลิงคนดังกล่าวด้วยตัวเอง ก่อนรับฟังสถานการณ์ไฟป่าจากนักดับเพลิงอีกคน

ก่อนหน้านี้ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประกาศสถานการณ์ ฉุกเฉินรับมือไฟป่าขึ้นอีกเป็นครั้งที่สาม นาน 1 สัปดาห์มีผลบังคับตั้งแต่ 09.00 น. วันที่ 2 ม.ค. ตาม วันเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ยังสั่งอพยพนักท่องเที่ยวในพื้นที่ 250 กิโลเมตร ไล่ตั้งแต่แถบชายฝั่งทางใต้รัฐนิวเซาท์เวลส์ ไปจนถึงพื้นที่บางส่วนของรัฐวิคตอเรีย ให้ออกนอกพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง

คำสั่งอพยพทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำมัน จราจรติดขัดและสินค้าขาดแคลน ทั้งนี้นับแต่เดือน ก.ย.ปีที่แล้ว ไฟป่าในหลายรัฐของออสเตรเลีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 18 คน

...

ด้านผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าอาจใช้เวลานับสิบปีกว่าสัตว์ป่าจะกลับมามีจำนวนในระดับมากเท่าปัจจุบัน หลังเกิดไฟป่า ด้านผลการศึกษาของยูนิเวอร์ซิตี้ออฟซิดนีย์คาดการณ์ว่าไฟป่าปีนี้ที่เกิดตั้งแต่เดือน ก.ย.ปีที่แล้ว ทำให้สัตว์ล้มตายไปจำนวนมาก โดยเฉพาะนิวเซาท์เวลส์รัฐเดียว มีสัตว์ป่าตายไปมากกว่า 480 ล้านตัว.