นายพลนักรบมือขวาคาเมนี โดนทรัมป์สั่งโดรนถล่มเละประกาศกร้าว! ‘เอาคืน’ สาสม

โลกร้อนระอุอีกแน่ “เพนตากอน” ยืนยัน “ทรัมป์” ให้จัดการเด็ดหัว “พล.อ.สุไลมานี” ผู้บัญชาการหน่วยรบต่างแดนของอิหร่าน นายทหารคนสนิทมือขวาของ “คาเมนี” ผู้นำสูงสุด เพราะหวั่นเป็นภัยร้ายแรงต่อสหรัฐฯ โดยใช้โดรนยิงถล่มขบวนรถบรรทุกของ พล.อ.สุไลมานี ที่สนามบินนานาชาติกรุงแบกแดด อิรัก จนรถถูกทำลายแทบไม่เหลือซาก หลังการเสียชีวิตทหารคู่ใจ ผู้นำอิหร่านประกาศเตรียมล้างแค้นสหรัฐฯ อย่างสาสม

โลกอาจเกิดไฟสงครามอีกครั้ง หลังสถานการณ์ภูมิภาคตะวันออกกลางส่อเค้าระอุรับปีใหม่ จากเหตุการณ์กองทัพสหรัฐฯปฏิบัติการโจมตีสังหาร พล.อ.กอซิม สุไลมานี มือขวาของ “อยาโตลเลาะห์ อาลี คาเมนี” ผู้นำสูงสุดของประเทศอิหร่าน รวมถึงผู้ติดตามอีกจำนวนหนึ่ง ที่สนามบินนานาชาติกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก ท่ามกลางสถานการณ์ความสัมพันธ์อิหร่าน-สหรัฐฯ ที่ทวีความตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ตลอดช่วงปีที่ผ่านมา จากการที่รัฐบาลสหรัฐฯใช้มาตรการคว่ำบาตรเศรษฐกิจของอิหร่านอย่างหนักหน่วง

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 ม.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวว่า เหตุโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 2 ม.ค. ในพื้นที่สนามบินนานาชาติกรุงแบกแดด อิรัก ขบวนรถ 2 คันบรรทุก พล.อ.สุไลมานี พร้อมแกนนำกองกำลังติดอาวุธในอิรัก ถูกเครื่องบินรบไร้คนขับหรือโดรน ของกองทัพสหรัฐฯยิงถล่มด้วยจรวดหลายนัด จนรถถูกทำลายแทบไม่เหลือซาก ขณะที่กองกำลังติดอาวุธในอิรักระบุว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน รวม พล.อ.สุไลมานี และนายอาบู มาห์ดี อัล-มูฮันดีส์ แกนนำกลุ่มติดอาวุธในอิรัก

...

หลังทราบข่าวการเสียชีวิตของนายทหารคู่ใจที่เป็นมือขวา อยาโตลเลาะห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ได้ออกแถลงการณ์แข็งกร้าว ว่ากลุ่มอาชญากรและกลุ่มฆาตกรที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ ต้องถูกล้างแค้นอย่างสาสม การเสียชีวิตของ พล.อ.สุไลมานี เป็นเรื่องที่น่าขมขื่น แต่ชัยชนะครั้งสุดท้ายของอิหร่าน จะทำให้พวกนั้นขมขื่นยิ่งกว่า ส่วนพลจัตวาอามีร์ ฮาตามี รมว.กลาโหมอิหร่าน และนายจาวัด ซาริฟ รมว.ต่างประเทศอิหร่าน ระบุว่า การโจมตีจะถูกตอบโต้ด้วยการบดขยี้ ถือเป็นการก่อการร้ายระดับประเทศโดยรัฐบาลสหรัฐฯ สมควรต้องรับผิดชอบและได้รับผลลัพธ์ที่ตามมา

ด้านนายมาร์ค เอสเปอร์ รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ยืนยันต่อมาว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้มีคำสั่งอนุมัติให้กระทรวงกลาโหมเพนตากอนสหรัฐฯ “ดำเนินการป้องกันอย่างเด็ดขาด” ต่อ พล.อ.สุไลมานี ซึ่งเป็นนายทหารระดับสูงของอิหร่าน ดูแลรับผิดชอบเครือข่ายกองกำลังติดอาวุธที่อิหร่านสนับสนุนทั่วตะวันออกกลาง ปฏิบัติการครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อสกัดกั้นแผนของ พล.อ.สุไลมานี ที่พยายามวางแผนโจมตีนักการทูตและเจ้าหน้าที่สหรัฐฯในตะวันออกกลาง และเพื่อป้องปรามแผนการโจมตีอื่นๆของอิหร่านในอนาคต ส่วนนายทรัมป์ได้โพสต์ภาพธงชาติสหรัฐฯลงทวิตเตอร์หลังข่าวการโจมตี

สำหรับ พล.อ.กอซิม สุไลมานี เป็นผู้บัญชาการหน่วยหัวกะทิ “คุดส์” สังกัดกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน ทำหน้าที่ขยายอิทธิพลอิหร่านในภูมิภาคตะวันออกกลางและต่างแดน สร้างผลงานการคุมกำลังพลมาตั้งแต่ช่วงปี 2533 สนับสนุนกองกำลังติดอาวุธเฮซบอลเลาะห์ในเลบานอน ส่งที่ปรึกษาและหน่วยรบช่วยเหลือกองทัพรัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ในการสยบกลุ่มกบฏซีเรีย รวมถึงส่งกำลังสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในอิรักปราบกองกำลังรัฐอิสลามหรือไอเอส จนได้ชื่อว่าเป็นวีรบุรุษของมหาชนในอิหร่าน ได้รับอำนาจสายบัญชาการขึ้นตรงต่อเพียงอยาโตลเลาะห์ อาลี คาเมนี จนถูกมองว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลเบอร์สองของอิหร่านและรัฐมนตรีต่างประเทศเงา

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯตีตราว่าหน่วยรบคุดส์ของอิหร่านเป็นกลุ่มก่อการร้าย เนื่องจากอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีกองทัพสหรัฐฯอย่างต่อเนื่อง ในช่วงสหรัฐฯทำสงครามกับอิรักเมื่อปี 2546 จนเจ้าหน้าที่สหรัฐฯเสียชีวิตกว่า 600 นาย และอยู่เบื้องหลังวางแผนลอบสังหารนักการทูตซาอุดีอาระเบียในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐฯ เมื่อปี 2554 แต่ในช่วงปี 2557 สหรัฐฯยอมร่วมมือกับกองกำลังติดอาวุธในอิรักที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยรบของ พล.อ.สุไล–มานี เพื่อปราบกองกำลังรัฐอิสลามหรือไอเอส

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานด้วยว่า ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-อิหร่าน ได้ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ นับตั้งแต่สหรัฐฯไม่ฟังเสียงนานาชาติ ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงยุติโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน เดินหน้ามาตรการคว่ำบาตรอิหร่านอย่างรุนแรง พร้อมกล่าวหาว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีเรือสินค้าในอ่าวเปอร์เซีย และเหตุชาวบ้านนับพันคนในอิรัก ชุมนุมปิดล้อมเผาอาคารสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯในกรุงแบกแดด เมื่อ 31 ธ.ค. หลังจากเหตุสังหาร พล.อ.สุไลมานีครั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯยังประกาศเตือนให้ชาวอเมริกันเดินทางออกจากอิรักอย่างเร่งด่วนที่สุด กระทรวงต่างประเทศจีน ออกแถลงเตือนให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้น โดยเฉพาะฝ่ายสหรัฐฯ ส่วนรัฐบาลอิรักระบุว่าเหตุโจมตี พล.อ.สุไลมานีจะเป็นชนวนเร่งสงคราม