ประชาชนในสหราชอาณาจักร ทั้งอังกฤษ เวลส์ สกอตแลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งทั่วไป ขณะที่เกิดความแตกแยกร้าวลึกในเรื่องเบร็กซิต

เมื่อ 12 ธ.ค.62 สำนักข่าวบีบีซี รายงาน ประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้ง อายุตั้งแต่ 18 ปีในสหราชอาณาจักร (UK) นับ 46 ล้านคน ถึงเวลาออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง  ในวันพฤหัสฯ ที่ 12 ธ.ค. เพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)  นับเป็นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 3 ของสหราชอาณาจักร ในระยะเวลาไม่ถึง 5 ปี หลังจากมีการเลือกตั้งในปี 2558 และ 2560 และถือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 100 ปีที่สหราชอาณาจักรจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนธันวาคม

คูหาเลือกตั้งทั่วอังกฤษ เวลส์ สกอตแลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ จำนวน 650 เขตเลือกตั้ง ได้เปิดคูหาให้ประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้ง ตั้งแต่เวลา 07.00 น. และจะปิดคูหาเลือกตั้งในเวลา 22.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยคาดว่าผลการนับคะแนนส่วนใหญ่จะสามารถประกาศได้ในช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ 13 ธ.ค. โดยพรรคที่ได้จำนวนส.ส.ในสภาผู้แทนฯมากกว่าครึ่งหนึ่งหรือ 326 ที่นั่ง จะเป็นพรรคที่ได้จัดตั้งรัฐบาล และหัวหน้าพรรคจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี

นายเจเรมี คอร์บิน (ขวา) หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ‘เลเบอร์’
นายเจเรมี คอร์บิน (ขวา) หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ‘เลเบอร์’

...

นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน หัวหน้าพรรคคอนเซอร์เวทีฟ (อนุรักษ์นิยม) มาใช้สิทธิเลือกตั้งในบริเวณใจกลางกรุงลอนดอน พร้อมกับพาสุนัขคู่ใจมาด้วย ส่วนนายเจเรมี คอร์บิน หัวพน้าพรรคเลเบอร์ (แรงงาน)ไปหย่อนบัตรเลือกตั้งทางตอนเหนือขงกรุงลอน ด้านนางนิโคลา สเตอร์เจียน หัวหน้าพรรคชาติสกอต (SNP) ไปเลือกตั้งที่เมืองกลาสโกว์ ในสกอตแลนด์

ก่อนถึงวันเลือกตั้ง 2 วัน นายกรัฐมนตรีจอห์นสันของอังกฤษ หัวหน้าพรรคคอนเซอร์เวทีพ (อนุรักษ์นิยม) ได้ให้คำมั่นว่าจะผลักดันข้อตกลง ‘เบร็กซิต’ กับอียู ได้ทันภายในวันที่ 31 มกราคม 2563 ขณะที่อียู ประกาศจะขยายกำหนดเส้นตายเบร็กซิต หรือสหราชอาณาจักรถอนตัวจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโป (อียู) เป็นครั้งที่ 3 โดยเลื่อนออกไปเป็นช่วงปลายเดือนมี.ค.2563 หากนายจอห์นสันนำพรรคคอนเซอร์เวทีฟชนะการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้