เจ้าชายแอนดรูว์ประกาศหยุดปฏิบัติพระกรณียกิจชั่วคราว หลังเข้าไปพัวพันกับข่าวอื้อฉาวทางเพศของ เจฟฟรีย์ เอปสตีน จนสะเทือนถึงราชวงศ์อังกฤษ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันพุธที่ 20 พ.ย. 2562 เจ้าชาย แอนดรูย์ ดยุคแห่งยอร์ก พระชนมายุ 59 พรรษา เปิดเผยว่า พระองค์ได้ทูลขอพระบรมราชานุญาตจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ ในการละเว้นการประกอบพระกรณียกิจไปสักระยะ และตรัสด้วยว่า ทรงเห็นใจเหยื่อล่วงละเมิดทางเพศของนายเอปสตีนกับทุกคนที่เกี่ยวข้องอย่างมาก
ความเคลื่อนไหวล่าสุด เกิดขึ้นหลังจากเจ้าชายแอนดรูว์เผชิญกระแสตีกลับ หลังทรงประทานการสัมภาษณ์กับสำนักข่าว บีบีซี ชี้แจงเรื่องความสัมพันธ์ของพระองค์กับนายเอปสตีน ซึ่งปลิดชีวิตตัวเองในห้องขังเมื่อเดือนสิงหาคม ขณะรอพิจารณาคดีข้อหาค้าประเวณี โดยเวอร์จิเนีย จุฟเฟรย์ หนึ่งในผู้กล่าวหานายเอปสตีน อ้างว่าเธอถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับเจ้าชายแอนดรูว์ 3 ครั้งตอนที่เธอยังมีอายุ 17 ปี แต่ดยุคแห่งยอร์กปฏิเสธว่าไม่มีความสันพันธ์ทั้งทางเพศและเชิงชู้สาวกับเธอ
...
อย่างไรก็ตาม ในการสัมภาษณ์กับ บีบีซี เจ้าชายแอนดรูว์ตรัสว่า พระองค์ไม่เสียใจที่เป็นเพื่อนกับนายเอปสตีน แม้จะบอกด้วยว่า การตัดสินใจพบกับนายเอปสตีนครั้งสุดท้ายในค.ศ.2010 เป็นการตัดสินใจที่ผิดก็ตาม ดยุคแห่งยอร์กยังตรัสว่า จำไม่ได้ว่าเคยพบกับน.ส.จุฟเฟรย์ ทั้งที่มีหลักฐานเป็นภาพพระองค์ยืนคู่กับเธออย่างชัดเจน และว่าในคืนที่หญิงคนนี้อ้างว่าได้พบกับพระองค์ พระองค์อยู่ที่ร้านพิซซ่า จากนั้นก็เสด็จกลับที่ประทับ
เจ้าชายแอนดรูว์แสดงความสงสัยในคำให้การของน.ส.จุฟเฟรย์ ที่บอกว่า พระองค์เหงื่อออกมาตอนอยู่ที่ไนท์คลับกับเธอ เพราะพระองค์มีอาการป่วยที่ทำให้เหงื่อออกไม่ได้ ดยุคแห่งยอร์กบอกด้วยว่า พระองค์รู้จักกับนายเอปสตีนในค.ศ.1999 แต่หลังจากนั้นสำนักพระราชวังบักกิงแฮมส่งจดหมายที่เขียนในค.ศ. 2011 ให้หนังสือพิมพ์ ไทม์ส ซึ่งเปิดเผยว่า ทั้งคู่พบกันในช่วงตั้นทศวรรษที่ 1990 ต่างหาก