ประเทศญี่ปุ่นเป็นชาติที่มีระเบียบวินัยและคำนึงถึงความปลอดภัยสูง จึงไม่แปลกที่หลายต่อหลายครั้งจะรับไม่ได้กับพฤติกรรมห่ามๆของชาติอื่น

โดยเฉพาะสิ่งที่ทำให้พลเมืองอาจถูกลูกหลงไปด้วย อย่างกรณีสัปดาห์ที่ผ่านมานายซุกุมาสะ มุราโอกะ ผู้ว่าการจังหวัดยามากุจิ ทางภาคใต้ของญี่ปุ่น ได้เรียกร้องให้รัฐบาลทำการตักเตือนไปยังรัฐบาลสหรัฐฯทันทีถึง พฤติกรรมของนักบินอเมริกันที่ประจำการอยู่ในฐานทัพอากาศอิวาคุนิ

เพราะปรากฏว่า ในรายงานสอบสวนกรณีอุบัติเหตุครั้งใหญ่ในเดือน ธ.ค.2561 ที่เครื่องบินเอฟ-18 ชนกลางอากาศกับเครื่องบินเติมน้ำมันเคซี-130 ยังแสดงหลักฐานเพิ่มเติมว่า นักบินในฐานทัพดังกล่าวไม่เคารพระเบียบปฏิบัติด้านความปลอดภัยแต่อย่างใด

ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูปเซลฟี่ โกนหนวด หรือการอ่านหนังสือโดยที่มือปล่อยจากคันบังคับ ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในค็อกพิตระหว่างภารกิจบิน ถึงต่อมาจะมีคำสั่งพักงานนักบินห่ามๆเหล่านี้ 4 นาย แต่มองว่าเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ ขาดความเป็นมืออาชีพ นอกจากนี้ ยังไม่รวมถึงพฤติกรรมการใช้ยาอย่างผิดๆ การเมาสุรา หรือการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับอื่นๆ

ขณะที่สื่อท้องถิ่นญี่ปุ่นรายงานด้วยว่า ข้อเรียกร้องในลักษณะนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดครั้งแรก เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นได้แสดงความกังวลด้านความปลอดภัยโดยรวมของการปฏิบัติภารกิจของสหรัฐฯมาเป็นระยะๆ

เมื่อปี 2560 กระจกของเฮลิคอปเตอร์กองทัพสหรัฐฯ ได้ตกลงในสนามโรงเรียนประถมในจังหวัดโอกินาวะ ทางภาคใต้ ส่งผลให้นักเรียนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ตามด้วยเดือน พ.ย.2561 เครื่องบินรบกองทัพเรือสหรัฐฯตกนอกชายฝั่งเกาะโอกินาวะ ระหว่างการเทกออฟ

และล่าสุดวันที่ 7 พ.ย. เครื่องบินรบเอฟ-16 ของสหรัฐฯ ทิ้งระเบิดสำหรับฝึกซ้อม นอกพื้นที่การซ้อมรบ ในจังหวัดอาโอโมริ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น แต่โชคดีที่เป็นพื้นที่มีคนอยู่อาศัยเบาบาง จึงไม่มีใครได้รับอันตราย หรือมีรายงานความเสียหาย

...

มีรายงานว่ากระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น จะรับเรื่องนำไปเรียกร้องแก่สหรัฐฯต่อไป แต่สุดท้ายเชื่อว่าคงไม่มีผลเป็นชิ้นเป็นอัน เนื่องจากเป็นที่รู้กันดีทั่วโลกว่าทหารสหรัฐฯมีสไตล์หลุดกรอบแบบนี้มานานแล้ว

อย่างรายงานสรุปของนายพลเยอรมันสมัยสงครามโลกชิ้นหนึ่ง ยังเคยระบุชัด “เหตุที่กองทัพสหรัฐฯรับมือได้ดีกับห้วงเวลาสงคราม เพราะว่าสงครามคือความยุ่งเหยิง ไร้ระเบียบ และกองทัพสหรัฐฯก็ปฏิบัติตัวแบบไร้ระเบียบชนิดวันต่อวัน”.

ตุ๊ ปากเกร็ด