ชิลียังเดือด ประท้วงบานปลายกลายเป็นจลาจล สุดสลด เจอร่างเหยื่อ ดับอีก 5 รายในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าโดนจุดไฟเผา หลังก่อนหน้า เผาซุปเปอร์มาร์เก็ต เสียชีวิตแล้ว 3 ราย

เมื่อ 21 ต.ค.62 สำนักข่าวต่างประเทศ และบีบีซี เกาะติดสถานการณ์ประท้วงรุนแรงในกรุงซานติเอโก เมืองหลวงและเมืองใหญ่หลายเมืองในประเทศชิลี หลังจากมีชนวนเหตุเริ่มต้นมาจากความไม่พอใจที่รัฐบาลขึ้นราคาค่ารถไฟใต้ดิน ก่อนจะบานปลายประท้วงเรื่องค่าครองชีพที่สูงขึ้นและความไม่เท่าเทียมกันในสังคม จนรัฐบาลชิลีต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในหลายเมือง รวมทั้งกรุงซานติเอโก ยอดผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องมาจากการประท้วง เพิ่มเป็นอย่างน้อย 7 รายแล้ว ขณะที่ธุรกิจร้านค้า ธนาคาร โรงเรียน ยังคงปิดในวันจันทร์ที่ 21 ต.ค.

บีบีซี แจ้งว่า พนักงานดับเพลิงได้พบร่างผู้เคราะห์ร้าย 5 ราย สิ้นชีพอยู่ในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าแห่งหนึ่งย่านชานกรุงซานติเอโก ซึ่งถูกผู้ก่อเหตุจลาจลจุดไฟเผา หลังจากก่อนหน้านี้ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย จากเหตุซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งถูกผู้ประท้วงเผา เมื่อวันเสาร์ที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา

...

นายอันเดรส ชาดวิค รมว.มหาดไทยชิลี แถลงถึงยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายจากเหตุรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับการประท้วงว่า ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 7 ราย ทว่าไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสราว 70 คน ขณะที่มีซุปเปอร์มาร์เก็ตและห้างร้านประกอบธุรกิจอื่นๆ อีก ราว 40 แห่งถูกปล้นขโมยสิ่งของ และมีประชาชนถูกคมกระสุนได้รับบาดเจ็บด้วย 2 ราย หลังเกิดเหตุผู้ประท้วงปะทะกับตำรวจปราบจลาจล

ตามรายงานระบุว่า ทางการชิลีได้ระดมกำลังตำรวจและทหารถึงราว 10,500 นายมาควบคุมสถานการณ์ประท้วงและเหตุรุนแรงบนท้องถนน โดยเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ก่อเหตุจลาจลรุนแรงแล้วกว่า 1,400 คน นอกจากนั้นในเมืองหลายๆ เมือง ผู้ประท้วงยังได้จุดไฟเผารถโดยสารประจำทาง ทุบทำลายสถานีรถไฟใต้ดินและเกิดการปะทะกับตำรวจปราบจลาจล จนทำให้รัฐบาลต้องประกาศเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกนอกบ้านในยามวิกาลในพื้นที่หลายเมือง นอกเหนือจากกรุงซานติเอโก