ขณะที่นักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยจอร์จเมสัน ในเมืองแฟร์แฟ็กซ์ รัฐเวอร์จิเนีย ในสหรัฐอเมริกา กำลังมองหาหลุมดำคู่หนึ่ง แต่กลับพบระบบกาแล็กซีที่ผิดปกติ ซึ่งเรียกว่า SDSS J084905.51+ 111447.2 ย่อมาจาก SDSS J0849+1114 ตั้งอยู่ห่างจากโลกพันล้านปีแสง นักดาราศาสตร์ระบุว่านี่คือการตรวจพบหลุมดำยักษ์ 3 แห่งภายในการชนกันครั้งมโหฬารของ 3 ดาราจักรหรือกาแล็กซี (galaxy)

การค้นพบนี้รวบรวมมาจากข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์ทั้งบนพื้นดินและในอวกาศ ได้แก่ กล้องโทรทรรศน์สโลน ดิจิทัล สกาย เซอร์เวย์ (Sloan Digital Sky Survey-SDSS) ที่สำรวจทางแสงในแนวท้องฟ้ากว้างจากนิว เม็กซิโก และข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศไวส์ (Wide-field Infrared Survey Explorer-WISE) ขององค์การนาซาที่เผยว่าระบบกาแล็กซีแห่งนั้นมีแสงสว่างหนาแน่นในช่วงแสงอินฟราเรดที่เกิดการควบรวมกาแล็กซี โดยคาดว่าจะมีหลุมดำมากกว่าหนึ่งแห่งในสนามการชนนั้นๆ นักดาราศาสตร์ได้ติดตามสิ่งที่เกิดขึ้นต่อ ด้วยกล้องโทรทรรศน์อวกาศจันทรา และกล้องโทรทรรศน์กล้องส่องทางไกลขนาดใหญ่ (Large Binocular Telescope-LBT) ที่อยู่ในรัฐอริโซนา

กล้องโทรทรรศน์อวกาศจันทราและกล้องโทรทรรศน์อวกาศนิวสตาร์ (Nuclear Spectroscopic Telescope Array-NuSTAR) พบว่ามีก๊าซและฝุ่นจำนวนมากรอบๆหลุมดำหนึ่งแห่ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของระบบหลุมดำที่ควบรวมกัน ขณะเดียวกันข้อมูลทางแสงจากกล้อง SDSS และ LBT ก็แสดงให้เห็นลักษณะเด่นของสเปกตรัมของวัตถุที่ถูกใช้โดยหลุมดำมวลมหาศาลทั้ง 3 แห่ง และสเปกตรัมแสงนี่เองคือแหล่งข้อมูลมากมายเกี่ยวกับกาแล็กซี โดยถูกใช้เพื่อระบุหลุมดำมวลยวดยิ่ง และยังสะท้อนผลกระทบที่มีต่อกาแล็กซีที่หลุมดำเหล่านี้อาศัยอยู่.


Credit : X-ray: NASA/CXC/George Mason Univ./R. Pfeifle et al.; Optical: SDSS & NASA/STScI

...