อินโดนีเซียเผชิญการประท้วงรุนแรงในหลายพื้นที่ของประเทศ จากการต่อต้านกฎหมายใหม่ที่พวกเขามองว่า ทำให้ประเทศพัฒนาถอยหลัง โดยมีผู้เสียชีวิตแล้วที่ 1 รายและบาดเจ็บจำนวนมาก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ประเทศอินโดนีเซียต้องเผชิญการประท้วงอย่างรุนแรงนำโดยกลุ่มนักศึกษา ที่ออกมาต่อต้านกฎหมายคอร์รัปชันฉบับใหม่ ที่พวกเขามองว่าทำให้คณะกรรมาธิการต่อต้านการคอร์รัปชันอ่อนแอลง และแผนการปฏิรูปประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งประเด็นที่ถูกโต้แย้งที่สุดคือการเสนอให้ ห้ามมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ไม่ใช่คู่สมรส

การชุมนุมที่เกิดขึ้นนับเป็นหนึ่งในการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การประท้วงโค่นล้มรัฐบาลเผด็จการซูฮาร์โตเมื่อปี 2541 ประชาชนจำนวนหลายหมื่นคนออกมาชุมนุมตามท้องถนนทั่วประเทศ โดยมีกรุงจาการ์ตาเป็นศูนย์กลาง และการเคลื่อนขบวนส่วนใหญ่จบลงที่การปะทะกับตำรวจ ซึ่งยิงแก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำแรงดันสูงตอบโต้ผู้ชุมนุมที่ขว้างปาก้อนหินและระเบิดขวดใส่พวกเขา

...

การประท้วงในวันพฤหัสบดีที่ 26 ก.ย. 2562 มีนักศึกษารายหนึ่งเสียชีวิตที่เมืองเคนดารี บนเกาะสุลาเวสี ขณะที่มีผู้บาดเจ็บในการประท้วงที่กรุงจาการ์ตาหลายร้อยคน และมีนักศึกษาถูกจับกุมทั่วประเทศอีกจำนวนมาก

ทั้งนี้ อินโดนีเซียพยายามปฏิรูปประมวลกฎหมายอาญาของพวกเขาที่ใช้มาตั้งแต่ยุคเป็นอาณานิคมของเนเธอร์แลนด์ แต่ฉบับร่างของกฎหมายอาญาใหม่ที่ออกมาถูกโจมตีว่า เป็นการย้อนคืนความก้าวหน้าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทั้งหมด ทั้งการห้ามมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ไม่ใช่คู่สมรส, การกำหนดให้การทำแท้งเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ยกเว้นกรณีฉุกเฉินหรือถูกข่มขืน

กฎหมายใหม่ยังกำหนดให้การดูหมิ่นประธานาธิบดีเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และขยายขอบเขตของกฎหมายเกี่ยวกับหมิ่นศาสนา ซึ่งเป็นเรื่องที่อ่อนไหวมากในอินโดนีเซียอยู่แล้ว

นอกจากนี้ การประท้วงยังลุกลามไปถึงเรื่องการคอร์รัปชัน, ความไม่พอใจกองทัพในเหตุความไม่สงบที่จังหวัดปาปัว และความล้มเหลวในการควบคุมไฟป่าบนเกาะสุมาตราและเกาะบอร์เนียว ซึ่งทำให้เกิดฝุ่นความพิษไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

จากเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นทำให้ประธานาธิบดี โจโก วิโดโด ออกมากล่าวเป็นครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เขาอาจจะพิจารณายกเลิกกฎหมายดังกล่าว หลังจากพูดมาตลอดหลายวันว่าจะมีการแก้กฎหมาย