นาซา ร่วมมือกับสำนักงานอวกาศยุโรป จัดตั้งทีมหยุดยั้งดาวเคราะห์น้อย ‘เพชฌฆาต’ ที่จะพุ่งชนโลก เตรียมหารือกันที่โรมสัปดาห์หน้า หารือภารกิจส่งยานอวกาศพุ่งชนดาวเคราะห์น้อย Didymos
เมื่อ 4 ก.ย.62 เว็บไซต์ มิร์เรอร์ และสกายนิวส์ รายงานว่า องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (NASA, นาซา) และสำนักงานอวกาศยุโรป (ESA, อีซา) ร่วมมือทำงานจัดตั้งทีมวิศวกรปฏิบัติภารกิจเบี่ยงเบนเส้นทางโคจรจของดาวเคราะห์น้อย เพื่อป้องกันไม่ให้พุ่งชนโลก และภารกิจนี้ถูกตั้งชื่อว่า ‘Asteroid Impact Deflection Assesment’ (การประเมินผลการเบี่ยงเบนดาวเคราะห์น้อยพุ่งชน) หรือ AIDA
ความร่วมมือในภารกิจด้านอวกาศครั้งนี้ของนาซาและอีซา มีเป้าหมายเพื่อเบี่ยงเส้นทางโคจรของดาวเคราะห์น้อยต่างๆ ที่อาจพุ่งชนโลก และภารกิจแรกคือการเปลี่ยนแปลงเส้นทางโคจรของดาวเคราะห์น้อยคู่ Didymos ซึ่งอยู่คู่กัน 2 ดวง โดยดวงใหญ่ ชื่อ Didymos A มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 780 เมตร และดาวเคราะห์น้อยขนาดเล็กกว่า Didymos B หรือ ‘Moonlet’ (มูนเล็ต) เส้นผ่าศูนย์กลางราว 160 เมตรที่โคจรรอบดาวเคราะห์น้อย Didymos A ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า
ชมคลิป : ที่นี่

...
สำหรับภารกิจของ AIDA จะเป็นการใช้ยานอวกาศ Double Asteroid Redirection (DART) ลำแรก พุ่งชนดาวเคราะห์น้อยดวงเล็กกว่า Didymos B ให้เบี่ยงเส้นทางโคจร จากนั้นดาวเทียมขนาดเล็กจะสำรวจบริเวณที่ชนและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบจากการใช้ยานอวกาศ DART พุ่งชนดาวเคราะห์น้อย Didymos B
ทีมวิศวกรจากนาซาในสหรัฐฯ และอีซาในยุโรป จะไปประชุมกันที่กรุงโรม เมืองหลวงอิตาลี สัปดาห์หน้า เพื่อทดสอบปฏิบัติการนี้ว่าสามารถเป็นวิธีที่นำมาใช้ในการปกป้องโลกมนุษย์ได้หรือไม่ โดยขณะนี้นาซาได้เริ่มสร้างยานอวกาศ Double Asteroid Redirection (DART) และมีกำหนดส่งขึ้นสู่ห้วงอวกาศในปี 2564 โดยยาน DART จะเดินทางถึงเป้าหมายในเดือนกันยายน 2565

ส่วนดาวเทียมที่จะเดินทางไปกับ DART คือดาวเทียมขนาดเล็ก CubeSat ที่สร้างโดยอิตาลี และเรียกว่า LiCIACube (Light Italian CubeSat for Imaging of Asteroid) เพื่อบันทึกช่วงเวลาที่ยาน Dart พุ่งชนดาวเคราะห์น้อย จากนั้นอีซาจะตรวจสอบผลภายหลังการชนยานดาวเคราะห์น้อย Didymos B เพื่อประเมินผลต่างๆ อย่างเช่น มวลของดาวเคราะห์น้อย และลักษณะรูปร่างของหลุมบนดาวเคราะห์น้อยหลังถูกชน ซึ่งภารกิจนี้เรียกว่า Hera (ฮีรา).
อ่านข่าว