แม้จะปกครองราชรัฐที่เล็กที่สุดเป็นอันดับสองของโลก มีประชากรอาศัยอยู่ไม่ถึง 40,000 คน แต่ “เจ้าชายอัลแบร์ที่สองแห่งโมนาโก” ก็ทรงรวยกว่า “ควีนเอลิซาเบธที่สองแห่งอังกฤษ” เป็นเท่าตัว โดยมีสินทรัพย์ในครอบครองมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเจ้าของที่ดิน 1 ใน 4 ของประเทศ จัดว่าเป็นกษัตริย์รวยที่สุดเป็นอันดับ 10 ของโลก

ถามว่าโมนาโกร่ำรวยมาจากอะไร ทำไมมีจีดีพีต่อหัวของ ประชากรสูงสุดเป็นที่สองในโลกถึง 153,177 ดอลลาร์สหรัฐฯ แถมทั้งประเทศมีคนรวยอยู่ 32% เดินไปตรงไหนจึงเห็นแต่รถซุปเปอร์คาร์กับเรือยอชต์หรูจอดเรียงเป็นตับ ก็ต้องบอกว่า โมนาโกทำเงินจากการท่องเที่ยว, ธุรกิจกาสิโน, การจัดแข่งรถกรังด์ปรีซ์, เป็นศูนย์กลางการเงินการธนาคาร และเป็นดินแดนปลอดภาษี ไม่มีการจัดเก็บภาษีเงินได้และภาษีมรดก ขณะที่ภาษีธุรกิจก็เรียกเก็บในอัตราต่ำติดดิน ที่นี่จึงเป็นแดนสวรรค์ของมหาเศรษฐีและเซเลบริตี้คนดัง ที่อยากจะหลบเลี่ยงภาษี

โมนาโกสามารถครองตำแหน่งความเป็นประเทศมหาเศรษฐีมาได้หลายศตวรรษ ก็ด้วยวิสัยทัศน์ของบรรพบุรุษ ที่คิดสร้างธุรกิจกาสิโน “มอนติ คาร์โล” ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เพื่อกอบกู้ฐานะของประเทศจากการเสี่ยงล้มละลาย นับตั้งแต่เปิดกาสิโนสุดหรูดึงดูดนักท่องเที่ยวและมหาเศรษฐีจากทั่วโลกจนเป็นต้นแบบของความสำเร็จ โมนาโกก็ไม่เคยข้องเกี่ยว กับความจนอีกเลย

กระนั้น คนรวยอาจจะตกสวรรค์กลายเป็นคนจนได้ ถ้าไม่รู้จักบริหารต่อยอดความรวย เรื่องนี้เป็นที่รู้ดีแก่ใจของ “เจ้าชายอัลแบร์ที่สอง” ประมุของค์ปัจจุบัน นอกจากจะสืบสาน สิ่งที่กษัตริย์ผู้พ่อได้สร้างไว้ สิ่งที่ “เจ้าชายอัลแบร์ที่สอง” ทรงเน้นย้ำมากคือ การสร้างคอนเนกชันผูกสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนานาประเทศ และผู้ทรงอิทธิพลด้านต่างๆของโลก

...

อีกหนึ่งวิสัยทัศน์ของประมุขโมนาโกองค์ปัจจุบันคือ โมนาโกไม่จำเป็นต้องพยายามเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ คิดใหญ่ทำใหญ่ฝันใหญ่ หรือต้องทำฝันให้เป็นจริง แต่ควรโฟกัสที่ความสุขและคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นหลัก สิ่งที่ทรงให้ความสำคัญที่สุดคือ มาตรฐานการใช้ชีวิตที่สูง, ระบบการศึกษาที่ดี, การพัฒนาทางเศรษฐกิจ, กีฬา, สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม ส่วนเรื่องการเมืองโลกจะไม่ยุ่งเด็ดขาด เพราะวางตัวเป็นประเทศที่เป็นกลางทางการเมืองมานานแล้ว มุ่งอย่างเดียวคือเรื่องการเป็นโต้โผจัดงานการกุศล เพื่อสร้างภาพสวยหรูในสายตาชาวโลก เรียกว่าถ้าพูดถึงราชวงศ์ใจบุญจะต้องมีชื่อของ “ราชวงศ์กริมัลดี” ติดอันดับต้นๆอย่างแน่นอน

กุนซือดีซะอย่างชนะไปร้อยแปด ตั้งแต่เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นประมุขโมนาโก เมื่อปี 2005 ภาพของ “เจ้าชายเพลย์บอย” ก็ค่อยๆถูกลบทิ้งไป เหลือเพียงแต่ความเป็น “แฟมิลี่แมน” และ “กษัตริย์น้ำพระทัยงาม”.

มิสแซฟไฟร์