ผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยฮ่องกงทยอยขึ้นศาลเมื่อวันพุธ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา หลังจากตำรวจตั้งข้อหาก่อจลาจล ท่ามกลางการชุมนุมของผู้สนับสนุนที่หน้าศาล

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้ประท้วงฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกงจำนวนหลายสิบคน ปรากฏตัวในชั้นศาลแขวงอีสเทิร์น เมื่อวันพุธที่ 31 ก.ค. 2562 ที่ผ่านมา หลังจากตำรวจตั้งข้อหาผู้ประท้วง 44 คน โทษฐานก่อจลาจล จากเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่ระหว่างการประท้วงในวันอาทิตย์ โดยมีโทษสูงสุดคือจำคุกถึง 10 ปี

ตำรวจฮ่องกงประกาศเรื่องการตั้งข้อหาดังกล่าวในคืนวันอังคาร ซึ่งทำให้เกิดการปะทะกันรอบใหม่ระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจทันที กลุ่มผู้ประท้วงยังออกมาแสดงพลังต่อเนื่องในวันพุธ โดยชุมนุมกันที่หน้าศาลท่ามกลางฝนตกหนัก เรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด “ปล่อยตัวผู้มีความชอบธรรม ... ไม่มีผู้ก่อจลาจล มีเพียงทรราช ... ทวงคืนฮ่องกง การปฏิวัติในยุคสมัยของพวกเรา” กลุ่มผู้ชุมนุมตะโกนที่หน้าศาล

ชาวฮ่องกงรวมตัวกันที่หน้าศาล เรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ประท้วงที่ถูกตั้งข้อหาก่อจลาจล
ชาวฮ่องกงรวมตัวกันที่หน้าศาล เรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ประท้วงที่ถูกตั้งข้อหาก่อจลาจล

...

ขณะเดียวกันในชั้นศาล ผู้ประท้วงทยอยขึ้นมายืนในคอกจำเลยอย่างสงบต่อหน้าผู้พิพากษา ซึ่งอ่านข้อกล่าวหาให้พวกเขาทราบและอนุญาตให้ประกันตัวออกไป โดยผู้ถูกกล่าวหามีมากมายหลายอาชีพตั้งแต่ ครู, พยาบาล, นักบิน, ช่างตัดผม, เชฟ, ช่างไฟฟ้า, คนงานก่อสร้าง, คนว่างงาน และวัยรุ่นหญิงอายุเพียง 16 ปี

ทั้งนี้ เขตบริหารพิเศษฮ่องกงเผชิญการประท้วงต่อเนื่องถึง 7 สัปดาห์ เริ่มจากการต่อต้านกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนจากฮ่องกงไปจีน ก่อนจะบานปลายกลายเป็นการเรียกร้องปฏิรูปประชาธิปไตย และยุติการบั่นทอนเสรีภาพ ซึ่งถือเป็นการท้าทายการปกครองของจีนครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ อังกฤษคืนฮ่องกงให้จีนในปี 2540