ยังรับใช้ถึงสถานการณ์ที่ทำให้สหรัฐฯแค้นอิหร่านกันต่อครับ เดือนธันวาคม 1978 นายพลอเมริกัน โรเบิร์ต ฮุยเซอร์ ซึ่งเป็นรองผู้บัญชาการกองกำลังนาโตบินเข้าอิหร่าน แต่ไม่เข้าเฝ้าพระเจ้าชาห์ พระเจ้าชาห์ก็ทราบทันทีว่าพระองค์โดนสหรัฐฯทิ้งแล้ว จึงคิดหนีออกนอกประเทศ ก่อนไปทรงตั้งนายชาปูร บัคเตียน เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อ 16 มกราคม 1979 แล้วก็เสด็จไปอียิปต์

พอรู้ว่าชาห์เสด็จออกนอกประเทศแล้ว ราษฎรก็ออกมาเฉลิมฉลองกันทุกตรอกซอกมุม อิหม่ามโคมัยนีกลับประเทศเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 1979 มีประชาชนมารอรับเป็นล้าน ถึงกรุงเตหะรานปุ๊บ อิหม่ามโคมัยนีก็ประกาศไม่รับรัฐบาลบัคเตียนปั๊บ และแต่งตั้งมะห์ดี บาซัรกัน เป็นนายกรัฐมนตรีแทน

ทหารของพระเจ้าชาห์บางกลุ่มไม่ยอมแพ้ ยังออกมาปราบปรามประชาชนตามถนนหนทาง ประชาชนจึงรวมตัวกันบุกไปที่คลังแสงเพื่อเอาอาวุธมาแจกจ่ายให้ประชาชนสู้กับทหาร จนสภาทหารสูงสุดต้องประกาศวางตัวเป็นกลางและยอมให้รัฐบาลของโคมัยนีบริหารประเทศ

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สหรัฐฯและตะวันตกก็เสียอิทธิพลทางการเมือง และเศรษฐกิจในอิหร่าน ประเทศในตะวันออกกลางที่มีระบอบราชาธิปไตยอย่างซาอุดีอาระเบีย บาห์เรน รวมทั้งระบอบเผด็จการอย่างอิรัก กลัวเชื้อการปฏิวัติลามเข้าไปในประเทศของตน ก็ดำเนินนโยบายเป็นศัตรูกับอิหร่านตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ภายหลังชาห์ป่วย ต้องไปรักษาตัวที่มหานครนิวยอร์ก คนอิหร่านก็ออกมาประท้วงสหรัฐฯ เพราะมีข่าวว่าสหรัฐฯจะหนุนชาห์ให้กลับมามีอำนาจ ผู้คนเรียกร้องให้ส่งตัวชาห์กลับมาลงโทษที่อิหร่าน เมื่อสหรัฐฯไม่ยอม นักศึกษาจึงไปยึดสถานทูตสหรัฐฯในกรุงเตหะรานเมื่อ 4 พฤศจิกายน 1979 และจับเจ้าหน้าที่ชาวอเมริกันเป็นตัวประกัน 66 คนเพื่อแลกกับพระเจ้าชาห์

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สหรัฐฯจึงกดดันอิหร่านด้วยการออกมาตรการเข้มงวดทางการเงิน ตัดความสัมพันธ์ทางการทูต อายัดทรัพย์สินของอิหร่านในสหรัฐฯ สหรัฐฯเองเสียดายผลประโยชน์ทั้งปวงในอิหร่าน + ความต้องการให้ตัวประกันปลอดภัย มีข่าวเล็ดลอดออกมาว่าอาจจะแลกชาห์กับอิหร่าน แต่ชาห์ไหวตัวทัน เสด็จออกจากสหรัฐฯไปยังปานามา และเสด็จต่อไปยังอียิปต์เสียก่อน

...

เมื่อไม่มีชาห์ไปแลก ประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ ของสหรัฐฯจึงตัดสินใจชิงตัวประกัน โดยส่งกองกำลังพิเศษที่มีฝีมือสูงสุดของกองทัพสหรัฐฯไปกับเครื่องบินแอบมาลงทางตะวันออกของอิหร่าน แต่โชคร้ายเครื่องบินเกิดชนกันเองทำให้นายทหารอเมริกันตายไป 8 ศพ

ชิงตัวประกันไม่สำเร็จ ประธานาธิบดีคาร์เตอร์เสียคะแนนเละเทะ แพ้เลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีใน พ.ศ.1981 คนอเมริกันจึงเลือกดาราภาพยนตร์ โรนัลด์ เรแกน เป็นประธานาธิบดีแทน และวันที่เรแกนสาบานตนเป็นประธานาธิบดี อิหม่ามโคมัยนีก็แสดงความยิ่งใหญ่ด้วยการสั่งปล่อยตัวประกันทั้ง 66 คนที่โดนขังอยู่นานถึง 444 วันทันที

ขอวกมาที่อิรักสักนิดเถอะครับ เมื่อชาห์เสด็จหนีออกนอกประเทศ และโคมัยนีกลับมามีอำนาจปกครองในอิรักแล้ว สหรัฐฯรู้ว่าจะต้องหาตัวละครใหม่ไปสู้กับอิหร่าน จึงแอบสนับสนุนนายทหารคนหนึ่งซึ่งมีชื่อว่าซัดดัม ฮุสเซ็น ขึ้นเป็นประธานาธิบดีอิรักเมื่อกรกฎาคม 1979

พอถึงเดือนกันยายน 1980 ซัดดัมก็สั่งกองทัพอิรักยึดร่องน้ำชัตตัลอาหรับและจังหวัดคูเซสถานของอิหร่าน กองทัพอากาศอิรักส่งเครื่องบินรบถล่มสนามบินของอิหร่าน 10 แห่ง

สหรัฐฯแอบหนุนซัดดัมรบกับอิหร่านจนถึงเดือนกรกฎาคม 1987 ไม่มีทีท่าว่าจะชนะ สหรัฐฯก็สั่งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีมติที่ 598 เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายยุติการสู้รบ แต่อิหร่านไม่ยอมหยุด เพราะคิดว่าตัวเองจะชนะแน่ จนกระทั่งเดือนกรกฎาคม 1988 อิรักเอาเครื่องบินขนระเบิดเคมีไปทิ้งที่เมืองซาร์ดาน คนอิหร่านบาดเจ็บล้มตายไปเป็นจำนวนมาก อิหร่านจึงยอมรับมติที่ 598 และยุติสงครามเมื่อ 20 สิงหาคม 1988 รวมทั้งสองประเทศรบกันอยู่นานถึง 8 ปี

เหตุการณ์ทั้งหมดทั้งปวงที่เกิดขึ้น มาจากการที่สหรัฐฯหนุนพระเจ้าชาห์อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ชาห์เองก็เอาใจสหรัฐฯมากเกินไป จนบั้นปลายท้ายที่สุด ก็พังด้วยกันทั้งคู่

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สหรัฐฯก็ซัดอิหร่านมาตลอดจนถึงทุกวันนี้.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com 

อ่านข่าวเพิ่มเติม