นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะไปเยือนไอซ์แลนด์ ควรศึกษา เตรียมใจกับค่าใช้จ่ายที่สูงมาก เพราะกลายเป็นประเทศที่ครองแชมป์ค่าครองชีพสูงสุดในยุโรป
เมื่อวันที่ 22.ค.62 สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะไปเที่ยวที่ “ไอซ์แลนด์” ประเทศขนาดเล็กในยุโรปเหนือ ซึ่งมีสภาพอากาศหนาวเย็นกึ่งขั้วโลก และขึ้นชื่อเรื่องบ่อน้ำพุร้อน ภูเขาไฟ ทุ่งลาวา ขณะที่เป็นชาติที่มีป่าไม้น้อยที่สุดในยุโรป ควรศึกษาและเตรียมตัวเตรียมใจเรื่องค่าใช้จ่ายให้ดี เพราะขณะนี้ ไอซ์แลนด์ซึ่งมีประชากรแค่ราว 355,000 คน ครองแชมป์ประเทศที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในทวีปยุโรปไปแล้ว
จากข้อมูลขององค์กร “ยูโรแซท” พบว่า ในปี 2561 ค่าครองชีพหรือราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในไอซ์แลนด์สูงกว่าค่าครองชีพเฉลี่ยในประเทศยุโรปอื่นๆ ถึง 56% เพราะสูงกว่าในสวิตเซอร์แลนด์ (52%) นอร์เวย์ (48%) และเดนมาร์ก (38%) โดยถ้าดูเมนูตามร้านอาหารทั่วไป คนต่างชาติอาจต้องตกตะลึง เพราะแค่พิซซ่าหน้าชีสแบบธรรมดาชิ้นเดียว ราคาสูงถึง 2,400 โครเนอร์ (เกือบ 17 ยูโรหรือ 400 บาท) ส่วนไวน์แก้วเดียวก็ราคาอย่างน้อย 10 ยูโร (ราว 350 บาท)
เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาสินค้าอุปโภคบริโภค “นัมบีโอ” (Numbeo) เผยว่า ราคาอาหารเฉลี่ยหนึ่งอิ่มสำหรับ 2 คนในร้านอาหารทั่วไป เฉลี่ยอยู่ที่ 85 ยูโร (เกือบ 3,000 บาท) ราคาไวน์ธรรมดา 1 ขวดตามร้านขายเครื่องดื่มทั่วไปสูงถึง 17 ยูโร (เกือบ 600 บาท) และราคาไข่ไก่ 1 โหล สูงถึง 5 ยูโร ( ราว 175 บาท)
สาเหตุที่ค่าครองชีพสูงลิ่ว เป็นเพราะไอซ์แลนด์ต้องพึ่งพาสินค้านำเข้าเป็นหลัก ทั้งอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งถูกเก็บภาษีในอัตราสูงมาก นอกจากนี้ ชาวไอซ์แลนด์ยังมีรายได้สูงมาก โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติไอซ์แลนด์ระบุว่า ผู้ทำงานแบบฟูล-ไทม์ มีรายได้เฉลี่ยก่อนหักภาษีถึง 632,000 โครเนอร์ (ราว 155,750 บาท) ต่อเดือน ดังนั้น ชาวไอซ์แลนด์เองจึงสามารถสู้กับค่าครองชีพที่สูงลิ่วได้อย่างไม่ลำบากอะไรนัก
...
อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางไอซ์แลนด์เตือนว่า ไอซ์แลนด์กำลังจะเข้าสู่ภาวะยากลำบากมากขึ้น เพราะคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของไอซ์แลนด์จะหดตัวลง 0.4% ในปี 2562 เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงถึง 31.% ในไตรมาสแรกของปีนี้ ส่วนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็ตกต่ำลง และสายการบินต้นทุนต่ำ “WOW” ของไอซ์แลนด์ก็ล้มละลาย ขณะที่จำนวน “ปลาไข่” (Capelin) ในน่านน้ำไอซ์แลนด์ก็ร่อยหรอเกือบหมดเกลี้ยง แต่ข้อดีของเศรษฐกิจถดถอยก็คือทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ที่เคยสูงลิ่วลดลงมาก