นักวิทยาศาสตร์หญิงสหรัฐฯ ถูกพบเป็นศพที่บังเกอร์บนเกาะของประเทศกรีซ หลังจากหายตัวไปนานนับสัปดาห์ ซึ่งตำรวจเชื่อว่าเป็นคดีฆาตกรรม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า น.ส. ซูซาน อีตัน นักวิทยาศาสตร์ด้านอณูชีววิทยา วัย 59 ปี ซึ่งหายตัวไปนานกว่า 1 สัปดาห์ ถูกพบเป็นศพที่บังเกอร์ร้างยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 บนเกาะครีต ของประเทศกรีซ โดยเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ และตำรวจกำลังสืบคดีนี้ในฐานะคดีอาชญากรรม
น.ส.อีตันเป็นนักวิทยาศาสตร์จากสถาบัน ‘แม็กซ แพลงค์’ ในเยอรมนีซึ่งมีชื่อเสียงในระดับโลก โดยเธอเดินทางมายังเกาะครีตเพื่อร่วมการประชุมงานหนึ่งในเมืองชาเนีย ก่อนจะหายตัวไปในวันที่ 2 ก.ค. ทำให้เกิดการระดมค้นหาครั้งใหญ่ จนกระทั่งตำรวจเมืองชาเนียก็พบศพของน.ส.อีตันภายในบังเกอร์ร้างห่างจากจุดที่มีผู้พบเห็นเธอครั้งสุดท้ายราว 10 กม. เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา
ตามการเปิดเผยของเว็บไซต์ข่าว ‘Cretalive’ (ครีตอะไลฟ์) ตำรวจพบศพน.ส.อีตันในสภาพถูกคลุมด้วยผ้ากระสอบ ทำให้ตำรวจเชื่อว่าเธอถูกฆาตกรรม ขณะที่ผลการชันสูตรศพของน.ส.อีตันพบว่า เธอเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ แต่ไม่มีบาดแผลที่เด่นชัด ซึ่งตำรวจกำลังสืบสวนหาว่า น.ส.อีตันถูกสังหารในบังเกอร์หรือถูกย้ายมาที่นี่หลังจากถูกฆ่าแล้ว
ทั้งนี้ บังเกอร์ที่พบศพของน.ส.อีตัน ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะครีต เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม โดยยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเหตุใดน.ส.อีตันจึงถูกสังหาร