กาญจนบุรีเคยเป็นจังหวัดหลังบ้าน วันหนึ่งมีโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย ที่สามารถขนส่งสินค้าผ่านทวาย-กาญจนบุรี จะทำให้กาญจนบุรีเป็นจังหวัดหน้าบ้าน ช่วง 10 ปีที่แล้วคนไทยมีความหวังมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนภาคตะวันตกของไทย

ภายหลังโครงการท่าเรือน้ำลึกทวายเงียบอย่างผิดปกติ ในขณะเดียวกันเมียนมาก็ได้รับการสนับสนุนจากญี่ปุ่น เข้าไปช่วยพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวาทำให้โครงการท่าเรือน้ำลึกทวายสำคัญน้อยลง ทั้งรัฐบาลเมียนมาและญี่ปุ่นหันไปทุ่มพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวาซึ่งอยู่ห่างจากนครย่างกุ้งเพียงแค่ 20 กิโลเมตร

พ.ศ.2557 ไทยมีปฏิวัติรัฐประหาร ตอนนั้นรัฐบาลญี่ปุ่นและเมียนมาประกาศความร่วมมือเพื่อให้บริษัทญี่ปุ่นไปลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา โดยเริ่มต้นก่อตั้งธุรกิจร่วมทุนกับ 3 บริษัทในพื้นที่ 2.4 พันเฮกตาร์ ทั้งโรงงานซูซุกิ 2 แห่ง โรงงานโตโยต้าที่เตรียมผลิตรถกระบะแบบน็อกดาวน์

การที่บริษัทโตโยต้าทิ้งประเทศอื่นเพื่อไปลงทุนอย่างเต็มรูปแบบในเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวาทำให้เมียนมาโตอย่างก้าวกระโดด แรงงานของเมียนมาก็เฮกันทั้งประเทศ ผมคุยกับเพื่อนชาวไทยที่อยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์หลายคน ทุกคนบอกว่าไม่ต้องกลัว เพราะเมียนมายังมียอดขายยานยนต์รวมแล้วยังน้อยมาก ที่ 1.75 หมื่นคันต่อปี ซึ่งตัวเลขยังห่างจากของไทยและอินโดนีเซีย ได้ฟังข้อมูลจากเพื่อนในอุตสาหกรรมนี้ ตอนแรก ผมก็อุ่นใจ

แต่พอนำตัวเลขการเจริญเติบโตของยอดขายรถยนต์ใหม่มาเทียบดู พบว่าเจริญเติบโตสูงเป็นหลายเท่า อีก 2 ปีข้างหน้าผมเชื่อว่า ยอดขายยานยนต์ใหม่ของเมียนมาจะทะลุเป็นแสนคัน ซึ่งข้อมูลที่เราดูจากสถิติก็ตรงกับตัวเลขของ MJTD หรือ Myanmar Japan Thilawa Development ว่ายอดขายรถยนต์ของเมียนมาจะเพิ่มเป็นแสนคัน

ตอนนี้ผู้ผลิตชิ้นส่วนเทียร์ 1 และเทียร์ 2 ก็พร้อมจะกระโจนเข้าไปลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวาหลายเจ้า

...

องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่นที่เราเรียกว่าเจโทรก็ยืนยันความฮอตของเมียนมาและเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวาว่า ขณะนี้มีการติดต่อจากผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จำนวนมากที่จะเข้ามาผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในเมียนมา

ไทยเป็นประเทศอยู่ตรงกลาง ด้านตะวันตกคือเมียนมา ที่ตอนนี้มีพัฒนาการด้านอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างเห็นได้ชัด ส่วนด้านตะวันออกของไทยก็คือเวียดนาม ซึ่งตอนนี้เราชาวไทยก็ต้องเอาน้ำแข็งมาโปะเปลือกตา เมื่อเห็นภาพสหภาพยุโรปลงนามข้อตกลงการค้าเสรีกับเวียดนาม เมื่อ 30 มิถุนายน 2562 ทันทีที่ปากกาลากลายเซ็นของนายเจิ่น ต่วน แอ็ง รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนามและของนางเซซิเลีย มัลม์สตรอม กรรมาธิการการค้ายุโรป เราก็รู้เลยว่าเวียดนามไม่ใช่ชาติรัฐเดิมอีกต่อไปแล้ว

EVFTA หรือข้อตกลงการค้าเสรีสหภาพยุโรป-เวียดนาม เป็นข้อตกลงการค้าเสรีที่มุ่งมั่นตั้งใจอย่างที่สุด ที่สหภาพยุโรป 27 ประเทศ (ไม่รวมสหราชอาณาจักร) ทำกับประเทศที่กำลังพัฒนา สหภาพยุโรปไม่เคยให้โอกาสชาติอื่นประเทศใดอย่างเวียดนามมาก่อน

สมัยก่อนตอนโน้น กรีกเคยเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ วันหนึ่งถนนทุกสายก็มุ่งไปสู่กรุงโรม ทิ้งให้กรีกกลายเป็นอาณาจักรเหี่ยวแห้งแรงน้อย เงยหน้ามองความเจริญรุ่งเรืองของมหาอาณาจักรโรมันนานนับหลายร้อยปี

ฉันใดก็ฉันเพล เอ๊ย ฉันใดก็ฉันนั้น ต่อจากนี้ไปในอนาคตอีกนานแสนนาน ถนนทุกสายจะมุ่งสู่เวียดนาม เพราะเวียดนามเป็นประเทศเดียวที่ผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศเข้าไปผลิตมีดพกกระจกเงากระเป๋าหิ้ว ฯลฯ จะถูกตัดภาษีออกไปร้อยละ 99 หมายความว่า เดิมเคยเสียภาษีร้อยละ 100 ต่อแต่นี้เป็นต้นไป EVFTA จะช่วยให้การผลิตในเวียดนามเพื่อส่งไปขายในสหภาพยุโรปเสียภาษีเพียงแค่ร้อยละ 1

แต่ก่อนง่อนชะไร สินค้าเกษตรที่ปลูกในเวียดนามเคยส่งไปขายในสหภาพยุโรปด้วยความยากลำบากเพราะมีโควตา EVFTA จะช่วยให้การผลิตสินค้าเกษตรในแผ่นดินของเวียดนามทำได้อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ไม่ต้องถูกจำกัดด้วยโควตาอีกต่อไป

10 ปีข้างหน้า เมื่อเราพูดให้ลูกหลานฟังว่า ก่อน พ.ศ.2557 มีชาวเมียนมาและเวียดนามเดินทางมาหางานทำในแผ่นดินไทย ลูก หลานอาจจะหาว่าเราโม้ก็ได้

ต่อไปนี้

นายจะกลายเป็นลูกน้อง

ลูกน้องจะกลายเป็นนาย.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com