ดูเหมือนโลกยุคนี้จะต้องการผู้นำโฉ่งฉ่างโผงผางมากกว่าพวกสนิมสร้อย ลำพังแค่ ผู้นำอเมริกา “ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์” กับ ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ “คิม จองอึน” ก็สร้างความปั่นป่วนจะแย่อยู่แล้ว นี่เรากำลังจะได้ผู้นำสติเฟื่องเพิ่มอีกคน และคราวนี้คงไม่มีใครขวางทางอดีตนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน “บอริส จอห์นสัน” ได้แล้ว เพราะเขาคือตัวเก็งเต็งหนึ่งเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษคนต่อไป

หลังจาก “คุณป้าเทเรซา เมย์” พลาดท่าเสียทีการเมือง จนต้องประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมทั้งน้ำตา เพื่อเปิดทางให้มีการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่มาบริหารประเทศแทน สปอตไลต์ทุกดวงก็ส่องไปที่อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศจอมปะฉะดะ “บอริส จอห์นสัน” ซึ่งกลายเป็นความหวังสุดท้ายของพรรคอนุรักษนิยม ที่จะมาผ่าทางตันกู้วิกฤติเบร็กซิต นำอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปตามสัญญา

ท่ามกลางคลื่นลมแรงทางการเมือง ต้องอาศัยคนกล้าบ้าบิ่นเท่านั้นถึงจะลุยฝ่าดงหนามไปได้ ยามวิกฤติเช่นนี้จึงไม่มีตัวเลือกใดจะดีไปกว่า “บอริส จอห์นสัน” หัวหมู่ทะลวงฟันผู้เป็นตัวตั้งตัวตีสนับสนุนนโยบายเบร็กซิตมาแต่แรก เขาประกาศกร้าวว่า หลังจากผ่านมา 3 ปี และพลาดเส้นตายมาแล้ว 2 ครั้ง เราต้องออกจากอียูให้ได้ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ หากล้มเหลวอีกครั้ง ก็จะทำให้พรรคอนุรักษนิยม ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลในปัจจุบัน ต้องพ่ายแพ้ให้กับผู้นำซ้ายจัดของพรรคแรงงานในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

ความห้าวเป้งของ “บอริส” ถูกฟูมฟักตั้งแต่สมัยเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ เขาเติบโตมาในสายข่าวการเมืองเข้มข้น เคยรั้งตำแหน่งรองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ “The Daily Telegraph” และบรรณาธิการนิตยสารการเมืองทรงอิทธิพลของอังกฤษ “The Spectator” ก่อนจะผันตัวมาเล่นการเมืองลงสมัครรับเลือกตั้งได้เป็น ส.ส.ครั้งแรก เมื่อปี 2001 โดยสังกัดพรรคอนุรักษนิยม ด้วยความเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงกล้าคิดกล้าพูด ทำให้ “บอริส” คว้าเก้าอี้นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนมาได้ ในปี 2008 และกลายเป็นขวัญใจคนรุ่นใหม่ที่เบื่อการเมืองน้ำเน่ายุคเก่า

...

ตลอดสองสมัยที่เป็นพ่อเมืองกรุงลอนดอน เขาได้ริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆให้ชาวลอนดอนมากมาย รวมถึงการออกกฎห้ามดื่มแอลกอฮอล์บนรถโดยสารสาธารณะ และการริเริ่มสร้างระบบขนส่งสาธารณะใหม่ด้วยจักรยาน โดยจัดทำสถานีเช่าจักรยานกระจายตัวอยู่ทั่วกรุงลอนดอนและชานเมือง มากกว่า 839 สถานี มีจักรยานให้เช่า 13,600 คัน มีสมาชิกมากกว่า 10 ล้านคน ใครๆก็เรียกติดปากว่า “บอริส ไบค์” แทนที่ชื่อจริง “Santander Cycles”

หมอนี่ยังเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกับ “อดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” มีความใฝ่ฝันอยากทำงานการเมืองตั้งแต่เยาว์วัย เกิดและโตในนิวยอร์ก ครอบครัวมีฐานะดี ความที่เป็นคนปากกล้านิสัยโผงผางเก็บอารมณ์ไม่เป็น ทำให้มีทั้งคนรักและคนชังพอกัน คนรัก “บอริส” ชื่นชมเขาที่เป็นคนสนุกสนาน, มีอารมณ์ขัน, กล้าคิดกล้าทำ และฉลาดมีไหวพริบ ขณะที่คนชังน้ำหน้ากล่าวหาว่าเขาหลงตัวเอง, ปากร้าย, ไม่จริงใจ, เกียจคร้าน และมีทัศนะเหยียดผิว กดขี่คนรักร่วมเพศ

ถึงจะผมเผ้ากระเซอะกระเซิง แต่ถ้าไม่มีกึ๋นจริงคงมาไกลขนาดนี้ไม่ได้ การเมืองโลกข้างหน้าจะต้องมีสีสันขึ้นอีกเยอะ จับตานายกรัฐมนตรีคนใหม่ของแดนผู้ดีไว้ ไปให้สุดแล้วหยุดที่บอริส!! ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา.

มิสแซฟไฟร์