อาหารอนาคต

มร.ลาร์-เฮนริค เลา เฮ็กมานน์ นักชีววิทยา ประจำสถาบันเทคโนโลจิคัลแห่งเดนมาร์ก (DTI) ณ เมืองอาร์ฮุส นำทีมทำโปรเจกต์ VALUABLE หนึ่งในโครงการวิจัยการขยายประชากรแมลงขนาดอุตสาหกรรมระดับใหญ่สุดในยุโรป

โดยเฉพาะ “หนอนนก” ตัวอ่อนของแมลงปีกแข็ง อาหารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งกับคนและสัตว์ ราคาถูกและยั่งยืน ให้ทั้งโปรตีนและไขมันค่อนข้างสูง ประกอบไปด้วย วิตามิน ไฟเบอร์และแร่ธาตุ

ไม่ใช่มีเพียงเท่านี้ องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ยังไฮไลต์ว่า เป็นแมลงปล่อยก๊าซเรือนกระจกและก๊าซแอมโมเนียน้อยกว่าวัว หรือหมู ใช้พื้นที่และน้ำก็น้อยกว่า แถมยังมีมากถึง 1,900 สายพันธุ์

มร.ไมเคิล บ็อม ฟรอสต์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ประจำมหาวิทยาลัยกรุงโคเปนเฮเกน ของเดนมาร์ก หนึ่งในทีม VALUABLE ก็ยังชื่นชมและชื่นชอบใช้วัตถุดิบ “หนอนนก” นี้ทำเป็นอาหารเช้ากราโนล่า หรือธัญพืชอบกรอบ แล้วยังมีแป้งแพนเค้กที่ทำจาก “หนอนนก” ก็รสชาติอร่อยลิ้นด้วย เมื่อให้กลุ่มนักศึกษานำเมนูเหล่านี้ไปแสดงที่ตลาดสดท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ผลตอบรับก็ออกมาเป็นเชิงบวกดี

มีการทำนายกันถึงอนาคตกับตลาดแมลงที่ยังก้าวไกลไปถึงบริษัทเกษตรกรรมอาหารระดับโลกบางราย จนคาดการณ์กันว่า การผลิตโปรตีนที่มาจากแมลงในยุโรปจะพุ่งพรวดพราดจากราว 5,000 ตันของทุกวันนี้เป็น 1.2 ล้านตัน ในอีก 6 ปีข้างหน้า

ภาคธุรกิจเอกชนที่เริ่มๆกันแล้ว อย่าง Cargill Inc. บริษัทเกษตรกรรมยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ และแมคโดนัลด์ คอร์ป ก็กำลังดูๆ ที่จะใช้แมลงเป็นอาหารสัตว์ Ynssect ของฝรั่งเศส ก็เปลี่ยนมาให้อาหารปลา สัตว์เลี้ยงและต้นไม้ด้วยแมลง ถึงกับสร้างฟาร์มแมลงขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วย เบลเยียมผลิตเบียร์ที่มีโปรตีนจากแมลง

แต่ก็มีนักวิจัยค้นคว้าบางคนออกมาเตือนว่า ทั้งที่หลายแห่งมีศักยภาพ แต่ปัจจุบันยังขาดความรู้ปัญหาขั้นพื้นฐานทำฟาร์มแมลงกันมาก เช่น สายพันธุ์ที่เหมาะสม ที่อยู่อาศัย อุณหภูมิอากาศ อาหารที่ต้องเลี้ยง และการจัดการของเสีย รวมไปถึงวิธีป้องกันแมลงที่หลบหนีไปแล้วจะไม่เป็นอันตรายต่อระบบนิเวศ

เพราะต้องไม่ลืมว่าเป็นแมลงศัตรูทำลายธัญพืชชนิดหนึ่งเชียวนะ...

ฤทัยรัช จันทร์เพ็ญ