ประเทศไทยเสียทรัพยากรมนุษย์ที่มีความสำคัญมากท่านหนึ่ง ท่านผู้นี้จบโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ปริญญาตรี โท เอก ทางรัฐศาสตร์และสังคมวิทยา ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียแห่งเบิร์กลีย์ สหรัฐอเมริกา ท่านจบปริญญาตรีได้เกียรตินิยมและได้รับการเชิดชูเกียรติเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมไพ ซิกมา แอลฟา Elected to PI SIGMA ALPHA, National Political Science Honor Society, U.S.A., 1962. Experiences
เป็นกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการจัดตั้งมหาวิทยาลัย รามคำแหง พ.ศ.2513-2514 โดยมีศาสตราจารย์ ดร.ศักดิ์ ผาสุขนิรันดร์ เป็นประธาน ระหว่าง พ.ศ.2516-2520 ท่านเป็นคณบดีผู้ก่อตั้งคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ท่านทำหน้าที่รักษาการคณบดี คณะรัฐศาสตร์หลายสมัย เป็นผู้เขียนหนังสือสังคมวิทยาการเมือง ที่สมัยก่อนนักศึกษารามคำแหงที่เรียนวิชา SO310 หรือ Political Sociology ต้องใช้หนังสือเล่มนี้ (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นรายวิชา SO477) การถ่ายทอดทั้งตัวอักษรและการสอนของท่านทำให้นักศึกษารามคำแหงสามารถวิเคราะห์สังคมการเมืองได้อย่างลึกซึ้ง เข้าใจการจัดองค์การทางการเมืองยุคก่อน
บัณฑิตที่จบรามคำแหงและเคยเรียนวิชา SO310 กับท่านจะเข้าใจทั้งสังคมประกิตทางการเมือง ระบอบประชาธิปไตยที่พิจารณาจากปัจจัยเชิงสังคมวิทยา พฤติกรรมฝูงชน นโยบายชนกลุ่มน้อยหรือชนต่างวัฒนธรรม ข้อพิจารณาเกี่ยวกับอำนาจเชิงบารมีวิสัย ท่านยังถนัดเรื่องอุปนิสัยประจำชาติและความมั่นคงและกำลังอำนาจแห่งชาติ ความสามารถของท่านทำให้การเรียนการสอนในด้านสังคมวิทยาในมหาวิทยาลัยรามคำแหงมีความเข้มแข็งลึกซึ้งมาก
ท่านเป็นภาคีสมาชิกราชบัณฑิตยสถาน สาขาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา เคยเป็นประธานสภาวิจัยแห่งชาติสาขาสังคมวิทยา เคยได้รับรางวัล IFSSO Prize หรือรางวัลนักวิจัยดีเด่น เป็นนักวิชาการไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก เคยเป็นประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนและสันติภาพของคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติของยูเนสโก เคยเป็นรองผู้อำนวยการสถาบันส่วนภูมิภาคว่าด้วยการอุดมศึกษาและการพัฒนา สาธารณรัฐสิงคโปร์ ฯลฯ
...
ท่านเคยเป็นกรรมการพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการวิเทศสัมพันธ์พุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ท่านทุ่มเททำงานเพื่อพุทธศาสนามาอย่างยาวนาน
นักศึกษาและบัณฑิตรามคำแหงสมัยก่อนจะรู้จักท่านในนาม ศาสตราจารย์ ดร.บรรพต วีระสัย
ปัจจุบันท่านเปลี่ยนชื่อและนามสกุลเป็น ศาสตราจารย์ ดร.จิรโชค วีระสย ท่านเกิดเมื่อ 1 มีนาคม พ.ศ.2479 และถึงแก่กรรมเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน 2562 สิริอายุ 83 ปี โดยมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีการสวดอภิธรรมที่ศาลา 3 วัดเทพลีลา ถนนรามคำแหง บางกะปิ เวลา 19.00 น. เป็นเวลา 7 คืน (8-14 มิถุนายน) และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน 2562
ผมเกิดและเติบโตหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ตามคุณพ่อคุณแม่เข้าไปในมหาวิทยาลัยตั้งแต่ยังแบเบาะ ทราบว่าท่านศาสตราจารย์ ดร.จิรโชค วีระสย แนะนำทั้งเรื่องความรู้ และการดำรงชีวิตกับคุณพ่อ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย อยู่เป็นระยะ
พ่อเล่าให้ผมและพี่ๆน้องๆฟังอยู่เสมอว่า อาจารย์มหาวิทยาลัย รามคำแหงยุคแรกๆ มุ่งมั่นทุ่มเทในการสอนมาก แม้ว่านักศึกษาจะสมัครเข้ามาใหม่ปีละถึงแสนคน แต่อาจารย์แต่ละท่านก็ยังจดจำและให้ความสนใจลูกศิษย์อยู่เสมอ คณาจารย์บางท่านยังเมตตาโทรศัพท์มาถามไถ่ ทั้งแนะนำการทำงานและการวางตัวในสังคม ค่าใช้จ่ายในการเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงสมัยที่ยังไม่ได้ออกนอกระบบถูกมาก ค่าหน่วยกิตเพียง 18 บาท ค่าหนังสือแค่เล่มละสิบกว่าบาทก็มี ลูกชาวไร่ชาวนาที่ไม่มีทุนทรัพย์และศักยภาพพอจะไปเรียนในมหาวิทยาลัยปิดหรือมหาวิทยาลัยเอกชนก็มาเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง
มหาวิทยาลัยรามคำแหงเปิดมาเพียง 48 ปี แต่มีบัณฑิตที่ประสบความสำเร็จในแวดวงต่างๆจำนวนมาก ดำรงตำแหน่งทั้งประธานศาลฎีกา รัฐมนตรี ปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ นักการระหว่างประเทศ ฯลฯ
สมัยก่อนการเรียนในมหาวิทยาลัยยังไม่ได้ใช้เทคโนโลยีทันสมัยอย่างทุกวันนี้ การเรียนต้องเข้าชั้นเรียนหรือฟังเทป พร้อมทั้งอ่านหนังสือและชีตประกอบการบรรยาย ไม่น่าเชื่อว่า ชั้นเรียนขนาดที่มีนักศึกษาลงทะเบียนเป็นจำนวนพันหรือบางวิชาเป็นจำนวนหมื่น อาจารย์จะสามารถอธิบายให้นักศึกษาเข้าใจและมีความรู้ความสามารถระดับประเทศและระดับโลกได้
คอลัมน์เปิดฟ้าส่องโลกขอไว้อาลัยต่อการจากไปของศาสตราจารย์ ดร.จิรโชค วีระสย (บรรพต วีระสัย) และขอคุณงามความดีของท่านอำนวยผลดลบันดาลส่งดวงวิญญาณของท่านไปสู่สุคติในสัมปรายภพครับ.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com