ประเด็นที่ถูกจุดขึ้นมาให้ร้อนเป็นระยะคือ เรื่องการแย่งกรรมสิทธิ์ในเกาะแก่งหลายแห่งระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่น และสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่นซึ่งเป็นสงครามครั้งแรกที่ประเทศเอเชียชนะมหาอำนาจยุโรป เรื่องที่ญี่ปุ่นชนะรัสเซียนี่เป็นสิ่งที่พวกฝรั่งทั้งหลายเก็บกดมาก และชัยชนะของญี่ปุ่นนี่เองครับที่ทำให้พวกเอเชียและแอฟริกาเคลื่อนไหวล้มลัทธิอาณานิคม

สงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่นนี่รบกันนาน 1 ปีครึ่ง ส่วนใหญ่เป็นการรบกันทางทะเล ผู้อ่านท่านที่เคารพที่ชอบประวัติศาสตร์ยุโรปก็คงจะนึกถึงยุทธนาวีที่แหลมทราฟัลการ์ในสงครามนโปเลียน ที่เริ่มต้นเมื่อ ค.ศ.1804 และ 100 ปีเป๊ะพอดี คือ ค.ศ.1904 ก็เกิดสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น ยุทธนาวีที่ช่องแคบสึชิมะมีความสำคัญเท่ากับยุทธนาวีที่แหลมทราฟัลการ์

ชนะรัสเซียปุ๊บ ญี่ปุ่นก็เป็นมหาอำนาจทางทะเลปั๊บ ตอนนั้น ไม่ว่าฝรั่งมังค่าชาติไหนก็กลัวญี่ปุ่น เมื่อรัสเซียแพ้ รัสเซียก็ต้องเดินตามก้นญี่ปุ่นไปลงนามสนธิสัญญาพอร์ตสมัท คนรัสเซียอยู่ในอาการตระหนกตกใจ และตำหนิรัฐบาลของพระเจ้าซาร์ ก่อนหน้านั้น คนรัสเซียจงรักภักดีต่อราชวงศ์โรมานอฟอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู แต่พอมาเจอเรื่องที่รบแพ้ชาติเอเชีย หลายคนก็ถอดใจกับราชวงศ์นี้ และเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศ แต่พระเจ้าซาร์ก็ทรงเมินเฉย จนทำให้เกิดการปฏิวัติเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ.1905 ที่กรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งตอนนั้นยังเป็นเมืองหลวงของรัสเซีย

ท่านที่เคยไปเยือนเฮย์หลงเจียงก็จะเห็นโบสถ์ทรงหัวหอมของศาสนาคริสต์นิกายรัสเซียนออทอดอกซ์ โบสถ์เหล่านี้นี่แหละครับ เป็นสิ่งยืนยันถึงการขยายอำนาจของรัสเซียในจีน ซึ่งตอนนั้นจีนอ่อนแอมาก มหาอำนาจตะวันตกจึงเข้าไปแย่งชิงผลประโยชน์ในแผ่นดินจีน จีนกับญี่ปุ่นเองก็มีปัญหาเรื่องแย่งชิงเกาหลีกันกับญี่ปุ่นจนเกิดสงครามจีน—ญี่ปุ่น ซึ่งรัสเซียหนุนจีน

...

เยอรมนี ฝรั่งเศส และรัสเซียเข้าไปแทรกแซงการลงนามในสนธิสัญญาชิโมะโนะเซะกิระหว่างจีนกับญี่ปุ่น จีนก็เอาใจรัสเซียด้วยการให้สิทธิ 80 ปี ในการสร้างและใช้เส้นทางรถไฟในระยะทาง 1,520 กิโลเมตรจากจีนผ่านแมนจูเรียไปเมืองท่าวลาดิวอสตอก

นอกจากนั้น รัสเซียยังสร้างเส้นทางสายทรานไซบีเรียและสร้างเส้นทางจากฮาร์บินผ่านเมืองมุกเดน (ตอนนี้คือเฉิ่นหยาง) ไปยังเมืองพอร์ตอาเทอร์ที่เป็นฐานทัพเรือในมหาสมุทรแปซิฟิก คนจีน ส่วนหนึ่งไม่พอใจรัสเซียก็จึงเรียกตัวเองว่า กบฏนักมวย และไปเผาสถานีรถไฟที่เทียนจินและเหลียวหยาง รัสเซียจึงถือโอกาสที่กบฏนักมวยก่อความวุ่นวายเข้าครองแมนจูเรีย

รัสเซียยึดแมนจูเรียทำให้ญี่ปุ่นเสียวว่าต่อไปในอนาคต รัสเซียจะคุมจีนและยึดเกาหลี ญี่ปุ่นจึงคานอำนาจรัสเซียโดยไปทำสนธิสัญญาพันธมิตรอังกฤษ-ญี่ปุ่น เมื่อ ค.ศ.1902 เมื่อเห็นญี่ปุ่นมีเพื่อนใหม่ใหญ่โตมโหฬารและเป็นมหาอำนาจ รัสเซียก็หงอยถอนทหารจากแมนจูเรีย แต่ถอนไปได้สักพัก รัสเซียก็กลับใจบอกว่า อ้า ไม่ถอนแล้ว เพราะแมนจูเรียยังไม่สงบ แถมยังเสริมกำลังที่เมืองพอร์ตอาเทอร์และเพิ่มกำลังทางเรือในน่านน้ำแปซิฟิก ทูตญี่ปุ่น จึงประท้วงรัสเซียและตัดความสัมพันธ์ทางการค้า

ญี่ปุ่นพยายามประนีประนอม บอกว่า อ้า ถ้าอย่างนั้นก็แบ่งแผ่นแดนกันครอง รัสเซียไปเอาแมนจูเรียเหนือ ส่วนญี่ปุ่นขอแมนจูเรียใต้กับเกาหลี รัสเซียไม่ตอบรับ ไม่ปฏิเสธ ญี่ปุ่นก็เลยตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซีย บังเอิญตอนนั้น รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียอยู่ที่ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นก็จัดการไล่ให้รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียออกจากญี่ปุ่นทันที แล้วก็ประกาศสงครามกับรัสเซีย

ญี่ปุ่นส่งเรือประจัญบานยิงตอร์ปิโดใส่กองเรือรัสเซียที่พอร์ตอาเทอร์ พวกรัสเซียงงๆ แต่กว่าจะหายงง เรือรบก็จมทะเลไป 3 ลำ ผู้ที่ตกตะลึงพรึงเพริดมากที่สุดก็คือ พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 เพราะก่อนหน้านั้น พวกองคมนตรีประชุมกันแล้วก็ยืนยันกับพระเจ้าซาร์ว่า ญี่ปุ่นชาติเอเชียไม่กล้าทำสงครามกับมหาอำนาจยุโรปอย่างตัวเองเป็นแน่ จากนั้น รัสเซียก็ประกาศสงครามกับญี่ปุ่น

ใครจะนึกเล่าครับว่า ญี่ปุ่นจะกล้าประกาศสงครามกับประเทศที่มีกองทหารประจำการใหญ่ที่สุดในโลก มากถึง 1.35 ล้านคน พรุ่งนี้มารับใช้ต่อครับ.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com