เกิดคำถามตามมาอย่างมาก เมื่อมีภาพที่สร้างความตกตะลึงถูกเผยแพร่ให้ชาวโลกได้เห็น เป็นภาพนักปีนเขาจำนวนมากต่อแถวกันยาวเหยียดรอขึ้นไปยังจุดสูงสุดบนยอดเขาเอเวอเรสต์ ในเทือกเขาหิมาลัย และต้องมาจบชีวิตบนยอดเขาสูงสุดในโลกแห่งนี้แล้วอย่างน้อยนับ 11 ราย ในช่วงเวลาเพียงแค่ 9 วัน รวมทั้ง โรบิน เฮย์เนส ฟิชเชอร์ หนุ่มชาวอังกฤษ วัย 44 ที่เสียชีวิตเป็นรายที่ 10 ก่อนต่อมา คริสโตเฟอร์ คูลิช ทนายความอเมริกัน วัย 62 จบชีวิต เป็นรายที่ 11
ทำไมจึงมีนักปีนเขาจำนวนมากขนาดนั้นไปอยู่ในบริเวณใกล้จุดสูงสุดของยอดเขาเอเวอเรสต์ จนเกิด ‘จราจรติดขัด’ และเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน่าสะเทือนใจเช่นนี้?
*คาดจะมีนักปีนเขาเสียชีวิตมากกว่านี้อีก
‘การต่อแถวรอขึ้นไปยังยอดเอเวอเรสต์ ไม่เหมือนการยืนเข้าคิวรอจ่ายเงินที่ซุปเปอร์มาร์เกต หรือ การจราจรติดขัดบนท้องถนน เพราะมันเป็นการรอ ที่ทำให้เราเหมือนกำลังติดอยู่ใต้น้ำที่มีอากาศเพียงแค่ในปากเท่านั้นที่จะรักษาชีวิตเราไว้ได้’ เว็บไซต์เดลี่เมล สื่อดังอังกฤษ เขียนโปรยในรายงานข่าว
...
เดลี่เมล รายงานความเห็นของ เบน โฟเกิล นักปีนเขาชาวอังกฤษ ที่เคยพิชิตยอดเอเวอเรสต์โดยลำพัง ไม่มีไกด์นำทาง เมื่อปี 61 เล่าถึงอันตรายจากการขึ้นไปยังยอดเขาเอเวอเรสต์ว่า ในบรรดาอันตรายทั้งหมดจากการปีนขึ้นสู่ยอดเขาสูงสุดในโลกแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นอันตรายจากหิมะถล่ม กลุ่มอาการจากโรคขึ้นที่สูง หรืออันตรายอื่นๆรอบตัวนั้น สำหรับตัวเขาแล้ว สิ่งที่กลัวมากที่สุด คือ จำนวนนักปีนเขาจากทั่วโลกที่หวังมาพิชิตยอดเอเวอเรสต์กันเป็นจำนวนมาก
เบน โฟเกิล ยังกังวลว่าอาจมีนักปีนเขาเสียชีวิตมากกว่านี้ เนื่องจากการรอต่อแถวนานถึง 12 ชั่วโมง หรือนานกว่านี้ ในบริเวณที่เรียกว่า ‘โซนมรณะ’ อากาศเบาบาง มีออกซิเจนเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ และต้องใช้เวลาอีก 6 ชั่วโมง ในการปีนกลับลงไปยังฐานที่พักที่ใกล้สุดก่อนจะขึ้นเอเวอเรสต์ ที่เรียกว่า ‘South Col.’
อ่านข่าว>เศร้า นักปีนเขาผู้ดีถ่ายคลิป ก่อนจบชีวิต รายที่10 พิชิตยอดเอเวอเรสต์ (คลิป)
*เหตุผลที่ทำให้นักปีนเขาสังเวยชีวิตมากขึ้นที่เอเวอเรสต์
บีบีซี รายงานเหตุผลที่ทำไมจึงเกิดข้อผิดพลาดกับนักปีนเขามาจบชีวิตที่เอเวอเรสต์ ในปีนี้มากกว่าทุกปี ในขณะที่จากสถิติในช่วง 2 ทศวรรษ ที่ผ่านมา มีนักปีนเขาเสียชีวิตจากการมาพิชิตยอดเอเวอเรสต์ เฉลี่ยอยู่ที่ปีละประมาณ 6 รายเท่านั้น
* เผชิญหน้าไซโคลนถล่ม ก่อนท้องฟ้าจะเปิด
ก่อนจะถึงฤดูกาลที่ทางการเนปาลอนุญาตให้นักปีนเขาสามารถขึ้นมาปีนเขาเอเวอเรสต์เป็นครั้งแรกในฤดูไบไม้ผลินี้ ได้มีพายุไซโคลนฟานีถล่มเอเชียใต้ ทั้งอินเดียและบังกลาเทศ จึงทำให้นักปีนเขาจำนวนมากเริ่มเดินทางมายังเบสแคมป์ ที่เอเวอเรสต์ เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ในขณะที่ทางการเนปาลได้อนุญาตให้นักปีนเขาขึ้นมายังเอเวอเรสต์ในฤดูกาลปีนเขาช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ถึง 381 คน
จากสภาพอากาศที่เลวร้ายในบริเวณเทือกเขาหิมาลัย ทางฝั่งประเทศเนปาล หลังพายุไซโคลนฟานีถล่ม ยังทำให้รัฐบาลเนปาลต้องออกคำสั่งให้ยุติกิจกรรมการปีนเขาอย่างน้อย 2 วัน ซึ่งสภาพอากาศที่เลวร้าย ยังหมายถึง การติดตั้งเชือกเกลียวเพื่อช่วยให้นักปีนเขาเกาะพยุงตัวขึ้นไปยังจุดสูงสุดของเอเวอเรสต์ ต้องล่าช้าออกไปด้วย
บีบีซี รายงานว่า หลังจากติดตั้งเชือกเรียบร้อยในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม สภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ท้องฟ้าเปิดครั้งแรกให้นักปีนเขาพิชิตเอเวอเรสต์ คือระหว่างวันที่ 19-20 พ.ค. ทว่ามีเพียงทีมนักปีนเขาแค่ 2-3 ทีมเท่านั้น ที่พร้อมจะขึ้นไปในช่วงเวลาดังกล่าว ขณะที่ทีมนักปีนเขาจำนวนมากขอรอท้องฟ้าเปิดครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 22-24 พ.ค.62
...
*การจัดการฝูงชนไม่ดี
ผู้เชี่ยวชาญด้านการปีนเขาหลายคนบอกว่า เมื่อมีฝูงชนนักปีนเขาจำนวนมาก จึงทำให้การจัดการผิดพลาด เพราะในวันที่ 23 พ.ค.62 เพียงวันดียว มีนักปีนเขาขึ้นไปพิชิตยอดสูงสุดของเอเวอเรสต์กว่า 250 คน จึงทำใหันักปีนเขาต้องรอกันนานหลายชั่วโมงในช่วงทั้งขาขึ้นและขาลงจากยอดเขา
การรอบนยอดเขาที่อากาศเบาบางนานหลายชั่วโมง จึงทำให้นักปีนเขาจำนวนมากเหนื่อยล้าหมดแรง และออกซิเจนในกระบอกที่นำติดตัวขึ้นไปเหลือน้อยลงเรื่อยๆ
*นักปีนเขาไม่มีประสบการณ์
ผู้เชี่ยวชาญด้านการปีนเขา ยังมีความเห็นด้วยว่า มีนักปีนเขาที่ไม่มีประสบการณ์มากพอในการปีนเขาหลั่งไหลอยากมาพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ ที่มีระดับความสูงถึง 8,500 เมตร มากขึ้น จึงทำให้มีนักปีนเขามากขึ้นบนเอเวอเรสต์
เจ้าหน้าที่เนปาลที่เบสแคมป์ บอกว่า ทีมนักปีนเขา จะมีชาวเชอร์ปาเป็นคนนำทางแค่ทีมละหนึ่งคน ซึ่งเมื่อมีนักปีนเขาคนใดคนหนึ่งในทีมประสบสถานการณ์เลวร้าย คนนำทางชาวเชอร์ปาเพียงคนเดียวไม่อาจช่วยเหลือได้มากนัก เพราะเขาต้องดูแลตัวเองด้วยเช่นกัน
...
...
นักปีนเขาบางคนที่กลับมาจากยอดเขาเอเวอเรสต์ได้อย่างปลอดภัย เล่าว่า พวกเขาเห็นนักปีนเขาหลายคนต้องเผชิญกับความยากลำบากต่อสู้เพื่อพยายามเอาชีวิตรอด เพราะออกซิเจนกำลังจะหมด และต้องรอนานกว่าจะขึ้นไปยังยอดเขาเอเวอเรสต์
ขณะที่ การแข่งขันของบริษัทจัดทัวร์ปีนเอเวอเรสต์ทั้งรายเก่าและรายใหม่ ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้บริษัททัวร์รายใหม่พยายามเสนอราคาที่ถูกกว่า เพื่อดึงดูดใจให้นักปีนเขามาซื้อทัวร์ของบริษัทตน ซึ่งเมื่อราคาทัวร์ถูกลง ก็หมายถึง การตัดการให้บริการแก่นักปีนเขาลง รวมทั้ง บริษัททัวร์ไปว่าจ้างคนนำทางที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์มากนัก มาเป็นคนนำทางขึ้นเอเวอเรสต์
‘โชคไม่ดีที่การแข่งขันทางธุรกิจจัดทัวร์ขึ้นเอเวอเรสต์ คำนึงแต่เรื่องปริมาณ ไม่ใช่คุณภาพ’
*สุดเศร้า จำต้องเดินผ่านร่างนักปีนเขาดับสลด
เว็บไซต์เดลี่เมลและเดอะ ซัน รายงานว่ามีนักปีนเขาชาวแคนาดา ซึ่งเป็นนักถ่ายทำภาพยนตร์ ชื่อ Elia Saikaly ได้โพสต์รูปภาพสะเทือนใจ เป็นภาพนักปีนเขาที่ต่อแถวกันยาวเหยียดขึ้นไปยังจุดสูงสุดของเอเวอเรสต์ และต้องผ่านร่างนักปีนเขาที่เสียชีวิตที่อยู่ข้างทางขึ้นนั่นเอง ซึ่งขณะนี้ไม่ทราบว่าเป็นศพของใคร
‘ที่นี่ พวกเราคือผู้คนที่กำลังไล่ตามความฝัน และทุกย่างก้าวใต้เท้าของเรา คือร่างคนไร้วิญญาณ , เอเวอเรสต์แห่งนี้ ได้กลายเป็นอะไรไปแล้ว?’
อ่านข่าว
*ตะลึง นักปีนเขาต่อแถวยาว พิชิตยอดเอเวอเรสต์ ดับแล้ว 2 รอนานจนหมดแรง
*สลด น้ำแข็งบนยอดเอเวอเรสต์ละลาย พบร่างนักปีนเขา แล้วเกือบ 300 ศพ