สัปดาห์ที่ผ่านมา นับเป็นอีกครั้งที่รัฐบาลเกาหลีเหนือได้ป่าวประกาศให้โลกรับรู้ถึงความเข้มแข็งและความล้ำสมัยของเทคโนโลยีกองทัพ

โดยเปิดเผยถึงการทดสอบอาวุธตัวใหม่ ที่จะสร้างความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ และอาวุธยังสามารถบรรจุหัวรบอานุภาพสูงได้ แต่สุดท้ายก็ไม่ให้รายละเอียดตามเคย ทำให้นักวิเคราะห์ต้องออกมาคาดเดาว่า อาจจะเป็นจรวดต่อต้านรถถัง จรวดปืนใหญ่ หรือไม่ก็จรวดต่อต้านอากาศยาน

ขณะที่นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ก็เล่นบทบาทพีอาร์ เยี่ยมชมการทดสอบอาวุธ ก่อนเข้าเยี่ยมฝูงบินพิทักษ์กรุงเปียงยาง แหล่งรวมเครื่องบินรบล้ำค่าของเกาหลีเหนือ ทั้งบินขับไล่ มิค-29 และบินโจมตีภาคพื้นดิน ซู-25 ซึ่งปกติแล้วภาพเหล่านี้น้อยครั้งที่จะหลุดมาให้โลกพบเห็น

แต่ทั้งหมดทั้งปวงนี้มิใช่เรื่องแปลกอย่างไร และสะท้อนให้เห็นชัดว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือกำลังประสงค์สิ่งใด เพราะหากย้อนดูเหตุการณ์ก็จะเห็นว่า เป็นการทดสอบครั้งแรกนับตั้งแต่เสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดเกาหลีเหนือ-สหรัฐฯ ในกรุงฮานอย เวียดนาม 27-28 ก.พ. ซึ่งจบลงแบบไม่สวยงาม หลังเกาหลีเหนือรับไม่ได้ที่สหรัฐฯไม่ยอมถอนมาตรการคว่ำบาตรรุนแรง

...

และการทดสอบดูจากข้อมูลของกองทัพเกาหลีใต้ระบุว่าไม่ตรวจพบสิ่งปกติในจอเรดาร์ใดๆ หมายความว่าเกาหลีเหนือมิได้ทำการทดสอบขีปนาวุธข้ามพิสัยต่างๆเหมือนในอดีต แสดงสัญญาณว่าตัวเองก็ยังไม่ได้ละเมิดคำสัญญาที่ให้กับสหรัฐฯไว้ เรื่องลดความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี

ประกอบกับนายคิม จอง อึน มีกำหนดจะเดินทางไป “รัสเซีย” เร็วๆนี้ (คาดการณ์กันว่าจะเป็นนครวลาดิวอสตอก ทางภาคตะวันออกรัสเซีย) เพื่อเข้าเจรจากับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งหากคุยลงตัว อาจเป็นการเพิ่มความมั่นคงให้กับรัฐบาลเกาหลีเหนือ ทั้งขยายอิทธิพลของรัสเซียในภูมิภาคไปในคราเดียวกัน

ทำให้สรุปได้หรือไม่ว่าการทดสอบอาวุธครั้งนี้ เกาหลีเหนือต้องการกดดันสหรัฐฯให้กลับสู่โต๊ะเจรจาเพียงเท่านั้นเอง เพราะก่อนหน้านี้นายคิม จอง อึน ก็พูดว่า พร้อมเจรจารอบ 3 หากสหรัฐฯเปลี่ยนท่าที แต่ทิ้งท้ายว่าให้เวลาถึงสิ้นปี 2562...น่าสนใจว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯที่เอ่ยชื่นชมผู้นำคิมตลอดช่วงหลังๆจะทำเช่นไรต่อไป โปรดรอติดตาม.

ตุ๊ ปากเกร็ด