รายงานผลการสืบสวนความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับทีมหาเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์ฉบับเต็ม ถูกเผยแพร่ออกมาแล้ว โดยระบุว่า ไม่พบการสมคบกับรัสเซีย...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานฉบับเต็มของผลการสืบสวนว่า รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในปี 2559 หรือไม่ และมีความเป็นที่ทีมหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ สมคบกับรัสเซียหรือไม่ ซึ่งมีจำนวนถึง 448 หน้าออกมาแล้ว ในวันพฤหัสบดีที่ 18 เม.ย. 2562
รายการดังกล่าวเป็นผลการสืบสวนของนาย โรเบิร์ต มุลเลอร์ อัยการพิเศษ ซึ่งกินระยะเวลานานถึง 22 เดือน และทำให้มีผู้ถูกจับกุม 35 คนโดยหลายคนในจำนวนนี้เป็นส่วนหนึ่งของทีมหาเสียงและคณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

...
รายงานของนายมุลเลอร์พบว่า ไม่มีการสมคบก่ออาชญากรรมระหว่างทีมหาเสียงของนายทรัมป์กับรัสเซีย แต่ไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจนตามกฎหมายได้ว่า นายทรัมป์พยายามแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมหรือไม่
รายงานยังระบุด้วยว่า ในเดือนมิถุนายน 2560 นายทรัมป์โทรศัพท์หานาย ดอน แมคกาห์น ทนายความประจำทำเนียบขาวในตอนนั้น เพื่อหาทางปลดนายมุลเลอร์ออกจากตำแหน่ง ฐานมีผลประโยชน์ทับซ้อน แต่นายแมคกาห์นบอกกับนายมุลเลาะห์ว่า เขาตัดสินใจลาออกหลังจากรู้สึกว่าติดอยู่ในกับดัก เพราะเขาไม่คิดจะทำตามคำสั่งของนายทรัมป์ และไม่รู้จะทำอย่างไรหากนายทรัมป์โทรศัพท์มาหาอีกครั้งหนึ่ง

รายงานเผยเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับพฤติกรรมของนายทรัมป์ด้วยว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รายนี้ใช้คำสบถหลังจากประกาศเริ่มการสืบสวน นายมุลเลอร์ยังได้ตรวจสอบ 10 พฤติกรรมของนายทรัมป์เกี่ยวกับการขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นต่อหน้าสาธารณะแล้ว และความพยายามที่อาจเป็นการขัดขวางกระบวนการยุติธรรมของเขาล้มเหลวก็เพราะนาย เจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ ปฏิเสธที่จะทำตามคำสั่ง
ขณะที่เจ้าหน้าที่สืบสวนมองว่า คำตอบที่นายทรัมป์เขียนตอบคำถามของพวกเขานั้น ไม่เพียงพอ แต่เลือกที่จะไม่ใช้มาตรการทางกฎหมายที่อาจกินระยะเวลายาวนาน เพื่อของสอบปากคำนายทรัมป์

ทั้งนี้ นายทรัมป์กล่าวในงานพบปะทหารผ่านศึกหลังรายงานฉบับนี้ได้รับการเผยแพร่ออกมาว่า เขามีวันที่ดี เสริมว่า ไม่มีการสบคบคิด หรือ การขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ขณะที่ผู้แทนประธานาธิบดีหลายคนออกมาย้ำจุดยืนของนายทรัมป์ที่บอกว่า การสืบสวนนี้เป็นเรื่องหลอกลวง และเรียกร้องให้มีการสืบสวนโต้กลับด้วย