โลกเฝ้าดูการเลือกตั้งอินโดนีเซียซึ่งจะมีการเลือกตั้งทั้งประธานาธิบดีและสมาชิกสภา 17 เมษายน 2562 วันพุธพรุ่งนี้ ใครเป็นรัฐบาลของสาธารณรัฐที่มีประชากร 265 ล้านอย่างอินโดนีเซียก็จะกระทบต่อความเป็นไปของโลกไม่น้อย
นอกจากอินโดนีเซียแล้ว โลกยังเฝ้าดูการเลือกตั้งของอินเดีย ซึ่งเป็นสาธารณรัฐที่มีประชากรมากถึง 1,360 ล้านคน ใครเป็นผู้นำของอินเดียก็มีผลต่อโลกเหมือนกัน การเลือกตั้งของอินเดียเริ่ม 11 เมษายน 2562 ยาวไปจนถึงเดือนพฤษภาคม เนื่องจากอินเดียเป็นประเทศใหญ่ มีประชากรมาก จึงต้องแบ่งการเลือกตั้งออกเป็น 7 เฟส เวียนไปตามรัฐต่างๆ และจะนับคะแนนกันในวันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม แม้ว่าการเลือกตั้งจะนาน แต่การนับคะแนนจะใช้เวลา 1 วันเท่านั้น
อินเดียใช้เครื่องนับคะแนน การนับคะแนนจึงรวดเร็วและถูกต้อง ไม่สามารถโกงผลการเลือกตั้งได้ หลายประเทศในโลกนี้ปฏิเสธการเลือกตั้งโดยการใช้เครื่องนับคะแนน เพราะมีบางฝ่ายกลัวผลการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่สามารถตุกติกได้ ทว่าอินเดียไม่กลัว
ผมมีโอกาสได้เห็นการเลือกตั้งทั่วไปของอินเดียครั้งที่แล้ว พ.ศ.2557 เพราะในช่วงนั้น ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย บวชและจาริกไปตามสังเวชนียสถาน ผมทำหน้าที่เป็นศิษย์ที่ต้องตามไปรับใช้ในทุกสถานที่ ยังจำได้ในวันนับคะแนน ประชาชนคนอินเดียต่างหยุดงานเฝ้าหน้าจอโทรทัศน์ ร้านค้าใหญ่เล็กจะเอาเครื่องโทรทัศน์ตั้งไว้หน้าร้าน มีคนยืนมุงดูกันเต็มทุกแห่ง
ผลการเลือกตั้งครั้ง พ.ศ.2557 พรรคบีเจพีครองเสียงข้างมากถึง 17 รัฐ จาก 29 รัฐ และได้ ส.ส.มากถึง 282 คน คะแนนของพรรคบีเจพีที่เป็นกอบเป็นกำมาจากรัฐอุตตรประเทศและรัฐมหาราษฏระซึ่งมีอภิพญามหานครมีประชากรมากถึง 20 ล้านคนอย่างมุมไบอยู่ด้วย
การชนะของพรรคบีเจพีทำให้นายนเรนทรา โมดีได้เป็นนายกรัฐมนตรี 5 ปี พวกเราเฝ้าดูความเจริญของอินเดียอย่างชื่นชม 5 ปีที่ผ่านมา อินเดียโตมากกว่าร้อยละ 6 อย่างต่อเนื่อง
...
สิ่งที่ทำให้อินเดียประสบความสำเร็จอย่างสูงคือ ความกล้าปฏิรูปโครงสร้างภาษีของนายโมดี ที่ผมชื่นชมนายโมดีอย่างยิ่งอีกอย่างหนึ่งก็คือ การที่แกกล้าเปลี่ยนธนบัตร ทำให้ธนบัตรที่พวกคอร์รัปชันเก็บไปในเซฟ กลายเป็นเศษกระดาษไปในพริบตา พวกค้ายาเสพติดและของผิดกฎหมาย ไม่กล้าเอาไปฝากธนาคาร เงินพวกนั้นก็เป็นเศษกระดาษชั่วข้ามคืนเช่นกัน
อินเดียเป็นประเทศประชาธิปไตยใหญ่ที่สุดในโลก การเลือกตั้งทุกครั้งในอดีต การปราศรัยเป็นสิ่งจำเป็น การจัดปราศรัยในแต่ละแห่งต้องใช้ทีมงานใหญ่ ใช้ทุนเยอะ ผู้สมัครจากพรรคเล็กๆ ที่มีทุนน้อย ไม่ค่อยได้รับเลือกตั้งให้เป็น ส.ส. และกลายเป็นพรรคไม้ประดับ
แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม ไม่ว่าพรรคใหญ่ พรรคเล็ก ต่างมีเวทีปราศรัยเท่ากัน คือเท่ากับหน้าจอโทรศัพท์มือถือ วันนี้ ประชาชนคนอินเดียดูการหาเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือกันทั้งพันกว่าล้านคน ผู้สมัครจากพรรคเล็กที่โดดเด่นและสื่อสารลงไปในโซเชียลมีเดียอย่างมีประสิทธิภาพจึงมีโอกาสได้รับเลือกสูง ผมเชื่อว่าพรรคเล็กจะได้ที่นั่งมากขึ้นและจะเป็นตัวแปรในการจัดตั้งรัฐบาล ฝ่ายไหนที่ได้ ส.ส.ในสภาเกิน 272 เสียงจะมีความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาลทันที
5 ปีที่ผ่านมา พรรคบีเจพีมีนโยบายหนุนชาวฮินดูอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู และปล่อยปละละเลยมุสลิมกับชนกลุ่มน้อยกลุ่มอื่นๆ การเลือกตั้งครั้งนี้มุสลิมและชนกลุ่มน้อยต่างเตรียมเลือกผู้สมัครจากพรรคคองเกรสที่นำโดยนายราหุล คานธี หลานของนางอินธิรา คานธี อดีตนายกรัฐมนตรีของอินเดียหลายสมัย ซึ่งพรรคนี้มีนโยบายดูแลชนกลุ่มน้อยดีกว่าพรรคอื่น
ติดตามการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ทั้ง กกต. ของอินโดนีเซียและอินเดียแล้ว พวกเราชาวไทยก็ต้องเอาน้ำแข็งโปะตา เพราะว่าตาของพวกเราร้อนผ่าวด้วยความอิจฉาตาร้อน พวกเราชาวไทยอยากได้คนเก่ง คนดี คนมีระบบ มาจัดการการเลือกตั้งอย่างนั้นกันบ้าง.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com