ทางการของประเทศญี่ปุ่นสรุปสาเหตุการฆ่าตัวตายของนาย ยูคิโนบุ ซาโตะ พนักงานสัญญาจ้างขององค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (จาซา) ที่เกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2559 แล้วว่ามาจากการทำงานหนักเกินไป...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 4 เม.ย. 2562 ว่า สำนักงานตรวจสอบมาตรฐานแรงงาน สึชิอุระ ของกรมแรงงานจังหวัดอิบารากิ อนุมัติคำร้องขอค่าชดเชยต่อการเสียชีวิตของนายซาโตะเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า นายซาโตะ ซึ่งในขณะเกิดเหตุมีอายุ 31 ปี ทำงานในโครงการดาวเทียมสำรวจก๊าซเรือนกระจก ‘อิบุกิ’ ของจาซาที่ศูนย์อวกาศสึรุบะ ฆ่าตัวตายเพราะทำงานหนัก จากการอยู่ภายใต้ความตึงเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ
นายฮิโรชิ คาวาฮิโตะ ทนายความของครอบครัวซาโตะจัดงานแถลงข่าวในวันที่ 3 เม.ย. ที่กระทรวงแรงงานในกรุงโตเกียว ระบุว่าเจ้าหน้าที่ยอมรับว่าชายหนุ่มคนนี้ได้รับโควต้าทำงานที่ไม่อาจทำได้ โดยนอกเหนือจากเรื่องการควบคุมดาวเทียมแล้ว นายซาโตะต้องพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับระบบจัดการตารางเวลาของดาวเทียมด้วย
นายคาวาฮิโตะชี้ว่า นายซาโตะต้องทำงาน 16 ชั่วโมงข้ามคืน 7 ครั้งต่อเดือน และหลังจากที่เขาได้รับความรับผิดชอบในงานมากขึ้นช่วงเดือนกันยายน 2559 เขาก็ต้องทำงานล่วงเวลานานกว่า 70 ชั่วโมงต่อเดือนโดยไม่ได้รับค่าจ้าง เขายังมีปัญหากับนายจ้างโดยถูกหัวหน้างานสั่งให้ทำงานใหม่ทั้งที่ไม่ให้เหตุผลแน่ชัด และในวันที่นายซาโตะเสียชีวิต เขาถูกหัวหน้าเรียกไปตำหนินานราว 30 นาทีด้วย
ทั้งนี้ นายซาโตะกลายเป็นเหยื่ออีกรายที่เสียชีวิตจากความเครียดเพราะทำงานหนัก หรือในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ‘คาโรชิ’ (karoshi) ซึ่งทางการญี่ปุ่นพยายามหาทางแก้ปัญหาเรื่องนี้ โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการบังคับใช้กฎหมายที่จำกัดเวลาทำงานล่วงเวลาไม่ไให้เกิดน 45 ชั่วโมงต่อเดือน และ 360 ชั่วโมงต่อไป บริษัทใดฝ่าฝืนจะถูกปรับสูงสุด 300,000 เยน (ราว 85,450 บาท)
...