รองปธน.สหรัฐฯ เตือนตุรกี ตกลงซื้อระบบต่อต้านขีปนาวุธ S-400 จากรัสเซีย ชี้ตุรกี ‘ต้องเลือก’ยังอยากเป็นสมาชิกนาโตต่อไป หรือจะเผชิญกับความเสี่ยงด้านความมั่นคงจากการตัดสินใจที่สะเพร่า


เมื่อ 4 เม.ย.62 สำนักข่าวบีบีซี รายงาน รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ แห่งสหรัฐฯออกมาเตือนรัฐบาลตุรกีที่หันไปสั่งซื้อระบบต่อต้านขีปนาวุธ ‘S-400’ จากรัสเซีย ชี้ถือเป็นภัยคุกคามต่อเครื่องบินขับไล่ ของสหรัฐฯ โดยรองประธานาธิบดีเพนซ์ ยังกล่าวในโอกาสนาโตก่อตั้งมาครบ 70 ปี ด้วยว่า รัฐบาลตุรกี ‘ต้องเลือก’ ระหว่างการยังคงเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ต่อไป หรือ เสี่ยงต่อความมั่นคงในการเป็นหุ้นส่วนกับรัสเซีย จากการตัดสินใจที่สะเพร่าเลินเล่อเช่นนี้

บีบีซี เผยว่า ตุรกีถือเป็นชาติที่มีขนาดกองทัพใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของชาติที่เป็นสมาชิกนาโต ซึ่งขณะนี้มี 29 ชาติเป็นสมาชิก หลังจากได้ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อผนึกความร่วมมือเป็นพันธมิตรด้านการทหารเพื่อถ่วงดุลกับอดีตสหภาพโซเวียตหลังสิ้นสุดสงครามโลกที่ 2 โดยขณะนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างนาโตกับรัสเซียย่ำแย่ลง นับตั้งแต่สาธารณรัฐไครเมียประกาศเอกราชจากยูเครนและเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเมื่อปี 2557

ระบบต่อต้านขีปนาวุธ S-400 ของรัสเซีย
ระบบต่อต้านขีปนาวุธ S-400 ของรัสเซีย

...

ทางการสหรัฐฯ เชื่อว่า การที่รัฐบาลตุรกีสั่งซื้อระบบต่อต้านขีปนาวุธ S-400 จากรัสเซียจะเป็นภัยคุกคามต่อเครื่องบินขับไล่ F-35 ของสหรัฐฯ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯก็ได้ระงับโครงการซื้อเครื่องบินขับไล่ F-35 ของตุรกี เพื่อกดดันให้ตุรกีหันมาซื้อขีปนาวุธแพตทริออตของสหรัฐฯ แทน ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสของนาโตหลายคนย้ำว่าระบบต่อต้านขีปนาวุธของรัสเซียไม่สามารถเข้ากันได้กับอุปกรณ์ทางทหารของตุรกี

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ทางการสหรัฐฯ ได้กดดันตุรกีต้องเลือก ทว่ารมว.ต่างประเทศตุรกี นายเมฟลูต คาวูโซกลู ได้ย้ำว่า รัฐบาลตุรกีจะไม่ยกเลิกข้อตกลงซื้อระบบต่อต้านขีปนาวุธ S-400 มูลค่าประมาณ 2,500 ล้านปอนด์ (ราว 100,000 ล้าน) จากรัสเซีย โดยต่อมา รองประธานาธิบดีตุรกียังได้ทวีตข้อความทางทวิตเตอร์ตอบโต้ด้วยว่า ‘สหรัฐอเมริกาต้องเลือก’ ว่าต้องการจะให้ตุรกียังคงเป็นพันธมิตรต่อไป หรือเสี่ยงต่อสัมพันธไมตรีของเรา ด้วยการไปเข้าร่วมกับกลุ่มก่อการร้ายเพื่อแทรกแซงทางทหารของชาติพันธมิตรนาโตที่ต่อสู้กับข้าศึกศัตรู?