นทท.หญิงอเมริกันเคราะห์ร้าย นั่งรถเที่ยวซาฟารีดูสัตว์ในอุทยานแห่งชาติที่ยูกันดา โดนกลุ่มมือปืนซุ่มสกัดรถ จับตัวไปเรียกค่าไถ่ ถึง 15 ล้าน ขณะที่จนท.ยูกันดาสนธิกำลังไล่ล่าคนร้าย

เมื่อ 4 เม.ย.62 สำนักข่าวต่างประเทศ ซีเอ็นเอ็น และเว็บไซต์ การ์เดียน รายงาน เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ กลุ่มคนร้ายในยูกันดา ลงมืออุกอาจบุกจับกุมนักท่องเที่ยวหญิงชาวอเมริกัน วัย 35 ปี คนหนึ่งไปเรียกเงินค่าไถ่เป็นเงินสูงถึง 500,000 ดอลลาร์ หรือราว 15 ล้านบาท ขณะที่นักท่องเที่ยวหญิงรายนี้กำลังนั่งรถยนต์ท่องเที่ยวซาฟารี ชมสัตว์ป่า อยู่ในอุทยานแห่งชาติควีน เอลิซาเบธ ในยูกันดา ซึ่งมีชายแดนติดกับสาธารณรัฐประธาธิปไตยคองโก

เว็บไซต์ การ์เดียน เผยว่า ขณะนี้กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของยูกันดา ทั้งตำรวจ กองกำลังป้องกันภัยพลเรือน และเจ้าหน้าที่อนุรักษ์สัตว์ป่า กำลังเร่งไล่ล่าติดตามกลุ่มมือปืนที่ก่อเหตุจับนักท่องเที่ยวหญิงอเมริกันเคราะห์ร้ายนี้ไปเรียกค่าไถ่ โดยเหตุการณ์ระทึก เกิดขึ้นขณะหญิงอเมริกันผู้นี้นั่งอยู่ในรถยนต์พร้อมกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวซาฟารีในอุทยานแห่งชาติควีน เอลิซาเบธ เมื่อช่วงเย็นใกล้ค่ำ เวลาประมาณ 18.00-19.00 น.วันอังคารที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ คนขับรถคันดังกล่าว อายุ 48 ปี ซึ่งยังเป็นไกด์พานักท่องเที่ยวชมสัตว์ป่าในอุทยานที่มีประสบการณ์

โฆษกสำนักงานตำรวจยูกันดา เผยว่า กลุ่มคนร้ายได้ใช้โทรศัพท์มือถือของหญิงอเมริกันคนนี้ ในการโทร.ติดต่อเข้ามาเพื่อเรียกเงินค่าไถ่สูงถึง 500,000 ดอลลาร์ แลกกับอิสรภาพของนักท่องเที่ยวหญิงอเมริกัน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยูกันดาเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่ากลุ่มคนร้ายก่อเหตุอุกอาจเพื่อต้องการเงินค่าไถ่มากกว่าเหตุผลอื่น

...