ยังจำความรู้สึกของการตกหลุมรักครั้งแรกได้ไหม หัวใจพองโตเต็มไปด้วยความสุข ดูกระตือรือร้นระริกระรี้อารมณ์ดีอย่างคนมีความหวัง...จงยืนกรานในความฝันให้เหมือนรักแรก!! “แจ็ค หม่า” บอกว่านี่คือเคล็ดลับกัดไม่ปล่อย และสร้างความลุ่มหลงเพื่อไขว่คว้าความสำเร็จ

จากครูจนๆเงินเดือนสี่ร้อยบาทผงาดขึ้นเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของจีน มีสินทรัพย์ในครอบครองมากกว่า 42,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สร้างอาณาจักรอาลีบาบาจนเป็นกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่ใครต่อใครไม่กล้าต่อกรด้วย ผู้ชายชื่อ “แจ็ค หม่า” ย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน

นอกจากจะมีเลือดนักสู้เข้มข้นเต็มตัว ไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ คุณสมบัติเด่นที่ทำให้เขาก้าวมาอยู่แถวหน้าของโลกได้คือ ความเป็นนักฝันที่เต็มไปด้วยอุดมคติ “แจ็ค หม่า” มักจะเดินสายพูดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ไม่เคยเกี่ยงว่าจะเป็นเวทีเล็ก เวทีใหญ่ เวทีท้องถิ่นหรือฟอรั่มระดับโลก โดยหนึ่งในเชื้อไฟที่จุดติดพรึบสะกดใจคนได้ทุกครั้งก็คือ “จงยืนกรานในความฝันให้เหมือนรักแรก”

เขาเป็นนักอุดมคติเต็มขั้น สิ่งที่เขากระหายและมุ่งแสวงหาจึงไม่ใช่ความสำเร็จ แต่เป็นการทำความฝันให้เป็นจริง!! เจ้าพ่ออาลีบาบาพูดไว้เสมอว่า ทุกคนต่างก็มีความฝัน มีแต่คนที่ไม่เคยยอมแพ้ และมุ่งแสวงหาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อให้ฝันเป็นจริง จึงจะบรรลุสิ่งที่หวัง

“บิล เกตส์”
“บิล เกตส์”

...

ถ้าอยากสร้างธุรกิจให้สำเร็จ จะต้องมีความฝันเป็นของตนเอง นี่คือกุญแจไขความลับสวรรค์ ในการเดินสายพูดครั้งหนึ่ง “แจ็ค หม่า” ให้ข้อคิดสร้างแรงใจว่า ในฐานะผู้สร้างธุรกิจ สิ่งแรกคือต้องมีฝันของตนเอง เมื่อปี 1995 ผมได้ไปอเมริกาโดยบังเอิญ แล้วก็พบกับอินเตอร์เน็ต หลังกลับมาผมระดมพรรคพวก 24 คน ผมบอกว่าผมเตรียมจะลาออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อมาทำอินเตอร์เน็ต สองชั่วโมงผ่านไปให้ทุกคนลงมติด้วยการยกมือ ปรากฏว่า 23 เสียงคัดค้าน มีแค่คนเดียวที่สนับสนุน ทุกคนคิดว่าเรื่องนี้เลื่อนลอยเกินไปอย่าไปทำ คุณไม่รู้เรื่องคอมพิวเตอร์ และอินเตอร์เน็ตก็มิได้มีอยู่จริง แต่หลังนอนคิดตลอดคืน รุ่งขึ้นผมตัดสินใจว่าต้องไปทำความฝันให้เป็นจริง มาถึงวันนี้เมื่อย้อนคิดดู ผมเห็นคนหนุ่มสาวมากมายที่กลางคืนคิดได้พันอย่าง พอรุ่งสางก็กลับไปเดินทางเก่า ถ้าคุณไม่ให้โอกาสตัวเองลองทำดู คุณจะไม่มีโอกาสตลอดไป ดังนั้น ผมจึงก้าวสู่เส้นทางการสร้างธุรกิจอย่างเลอะเทอะ เปรียบตัวเองเหมือนคนตาบอดขี่เสือตาบอด ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วตนเองจะทำอย่างไรในอนาคต แต่ผมมั่นใจว่าอินเตอร์เน็ตจะมีคุณูปการใหญ่หลวงต่อมนุษยชาติ ในยุคนั้นไม่ค่อยมีใครเชื่ออินเตอร์เน็ต จำได้ว่าผมอ้างชื่อ “บิล เกตส์” เพื่อบอกว่าอินเตอร์เน็ตจะเปลี่ยนแปลงทุกมิติของชีวิตผู้คน ถ้าบอกว่าแจ็คพูดคงไม่มีใครเชื่อ สุดท้ายสื่อจีนตีพิมพ์คำพูดผม ทั้งๆที่ในปี 1995 “บิล เกตส์” ยังต่อต้านอินเตอร์เน็ต

หลายคนอยากสร้างธุรกิจ แต่ไม่กล้าลงมือทำ เพราะติดเงื่อนไขโน้นเงื่อนไขนี้ “แจ็ค หม่า” ย้ำว่า ถ้าโอกาสสุกงอมแล้ว จะไม่มีวันตกมาถึงพวกเรา ฉะนั้นต้องออกไปสร้างโอกาสสร้างเงื่อนไขด้วย

ตัวเราเอง ตีโจทย์ให้แตก 3 ข้อคือ หาคำตอบให้ได้ว่าคุณอยากทำอะไรจริงๆ ไม่ใช่พ่อแม่อยากให้ทำ หรือแห่ทำตามเพื่อน จากนั้นคิดให้ตกว่าควรทำอะไรและไม่ควรทำอะไร เวลาบริษัทตั้งใหม่ๆจะมีโอกาสและทางเลือกมากมายเข้ามาทดสอบ ในแต่ละโอกาสแต่ละทางเลือกเราจะยังคงมุ่งมั่นเหมือนวันแรกไหม ต่อหน้าหลักการเรายืนกรานได้หรือไม่ ต่อหน้าความเย้ายวนเรายังยืนกรานในหลักการได้หรือไม่ ต่อหน้าแรงกดดันเรายังยืนกรานในหลักการได้หรือไม่ เมื่อยึดหลักได้มั่นรู้แน่ว่าจะทำอะไร และควรทำอะไร ก็ต้องค้นหาคำตอบให้เจอว่าเราจะทำมันได้นานแค่ไหน

“แจ็ค หม่า” ทิ้งท้ายว่า ประสบการณ์บอกผมว่า ขณะที่ไม่มีเงื่อนไขต้องสร้างเงื่อนไข เมื่อไม่มีโอกาสก็ต้องสร้างโอกาส ขอเพียงยังมีฝัน ขอเพียงยังมีทีมงานที่ดี เราจะข้ามไปอีกฝั่งของมหาสมุทรจนได้ ผมบอกกับตัวเองทุกวันว่าวันนี้โหดร้าย พรุ่งนี้โหดร้ายยิ่งกว่า แต่มะรืนจะงดงาม คนส่วนมากล้วนตายไปในคืนพรุ่งนี้ ไม่ทันอยู่ชื่นชมความงดงามของวันมะรืน!!

มิสแซฟไฟร์