กลายเป็นเหตุโศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญ จากกรณีการโจมตีขบวนกองทัพอินเดีย ด้วยรถยนต์ระเบิดฆ่าตัวตาย ในแคว้นพิพาทแคชเมียร์ เมื่อวันที่ 14 ก.พ.
หลังเขม่าควันจาง โฆษกกลุ่มติดอาวุธ “เจียช์-อี-โมฮัมหมัด” (เจอีเอ็ม) ซึ่งมีฐานที่มั่นในปากีสถาน ออกโรงประกาศรับผิดชอบ โดยระบุชัดเจน สมาชิกกลุ่มขับรถยนต์ขนระเบิดพุ่งชนใส่ขบวนกองทัพอินเดีย ส่งผลให้ยานพาหนะกองทัพอินเดียพังเสียหายหลายสิบคัน มีผู้ถูกสังหารเป็นจำนวนมากหลายสิบศพ
เจียช์-อี-โมฮัมหมัด หรือกองทัพแห่งโมฮัมหมัด ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มติดอาวุธที่มีอยู่มากมายในเอเชียกลางและใต้ และได้รับการตีตราจากสหรัฐฯ อังกฤษ อินเดีย และสหประชาชาติ ว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย ก่อตั้งเมื่อปี 2542 โดยนักสอนศาสนาปากีสถานวัย 50 ปี “มัวลาน มาซูด อัซฮาร์”
อัซฮาร์มีประวัติการเคลื่อนไหวอย่างโชกโชน หลังจบการศึกษาจากโรงเรียนศาสนา ได้ตัดสินใจร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายมูจาฮีดีน เข้าสู้รบในสงครามโซเวียต-อัฟกานิสถานจนได้รับบาดเจ็บ จึงผันตัวทำหน้าที่เกณฑ์สมาชิก ทั้งในตะวันออกกลาง แอฟริกา และยุโรป มีรายงานว่า อัซฮาร์เคยพบปะกับมุลเลาะห์ โอมาร์ อดีตผู้บัญชาการกองกำลังตาลีบันอัฟกัน และโอซามา บิน ลาดิน อดีตหัวโจกเครือข่ายก่อการร้ายสากลอัล-เคดา
การก่อตั้งกลุ่มเจียช์-อี-โมฮัมหมัด มีขึ้นภายหลังอัซฮาร์ถูกทางการอินเดียปล่อยตัว แลกกับตัวประกันในเหตุการณ์จี้สายการบินอินเดียน แอร์ไลน์ส ก่อเหตุโดยน้องชายของอัซฮาร์ ต่อมา กลุ่มเจียช์-อี-โมฮัมหมัด ถูกพบว่าพัวพันเหตุก่อการร้าย 174 ศพ โรงแรมนครมุมไบ อินเดียปี 2551 และการโจมตีฐานทัพอากาศปาธานคตของอินเดียปี 2559 รวมทั้งถูกอินเดียกล่าวหาว่าพัวพันเหตุโจมตีอาคารรัฐสภาอินเดียก่อนหน้านี้ในปี 2544
รัฐบาลปากีสถานเคยควบคุมตัวอัซฮาร์ภายหลังเกิดเหตุโจมตีรัฐสภาอินเดีย แต่มีรายงานในช่วงปี 2559 ว่า เจ้าตัวยังคงมีอิสรภาพใช้ชีวิตตามปกติ ส่วนตลอดเวลาที่ผ่านมา อินเดียพยายามขอปากีสถานส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน แต่ทางการปากีสถานปฏิเสธอ้างไม่มีหลักฐานเพียงพอ ทั้งอินเดียยังขอสหประชาชาติขึ้นบัญชีอัซฮาร์เป็นสมาชิกก่อการร้ายสากล แต่ถูก “จีน” พันธมิตรปากีสถานขัดขวาง
...
นอกจากการทูตแล้ว อินเดียเคยใช้ไม้แข็ง โจมตีสังหารนูร์ โมฮัมหมัด ผู้บัญชาการกลุ่มเจียช์-อี-โมฮัมหมัด ในเดือน ธ.ค.2560 แต่ปรากฏว่ากลุ่มยังคงเข้มแข็ง ขยับขยายเครือข่าย และความรุนแรงการก่อเหตุไม่ลดลง ทำให้สื่อบางสำนักของอินเดียตั้งข้อสังเกตว่า เจียช์-อี-โมฮัมหมัด มีปากีสถานเป็นแบ็กหลังอยู่ลับๆ.
ตุ๊ ปากเกร็ด