ทำเนียบขาวยืนยัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะยอมลงนามร่างกฎหมายฉบับประนีประนอมเพื่อเลี่ยงวิกฤติชัตดาวน์ แต่จะประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อใช้งบของกองทัพสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกแทน...
บีบีซี รายงาน เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2562 ทำเนียบขาวสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะลงนามร่างกฎหมายความมั่นคงชาติแดนตามที่เดโมแครตต้องการ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้รัฐบาลชัตดาวน์อีกครั้ง และจะประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ เพื่อใช้งบประมาณของกองทัพมาเพื่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกแทน
“อีกครั้งหนึ่งแล้วที่ประธานาธิบดีได้สัญญาที่จะสร้างกำแพง, ปกป้องชายแดน และคุ้มครองประเทศอันยิ่งใหญ่ของเรา” ซาราห์ แซนเดอร์ส เลขาธิการฝ่ายสื่อของทำเนียบข่าวระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี และเสริมด้วยว่า “ประธานาธิบดีจะใช้คำสั่งฝ่ายบริหารอื่นๆ รวมถึงการประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ เพื่อรับประกันว่า เราจะหยุดวิกฤติด้านความมั่นคงแห่งชาติและมนุษยธรรมที่ชาติแดนได้”
ความเคลื่อนไหวล่าสุดเกิดขึ้นหลังจาก วุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายงบประมาณฉบับประนีประนอม ระหว่างพรรครีพับลิกันและเดโมแครต ซึ่งมีงบประมาณสำหรับเสริมความมั่นคงชายแดนจำนวน 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงการสร้างแบร์ริเออร์ที่ชายแดน แต่ไม่รวมงบสร้างกำแพงจำนวน 5.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่นายทรัมป์ต้องการ
เมื่อครั้งที่นายทรัมป์ขู่ว่าจะประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา สมาชิกระดับสูงของพรรครีพับลิกันบางคนออกมาแสดงการคัดค้าน แต่ในวันพฤหัสบดี นายมิตช์ แมคคอนเนล ประธานเสียงข้างมากในวุฒิสภา กล่าวว่า เขาจะสนับสนุนแผนการนี้ และว่า ประธานาธิบดีกำลังใช้เครื่องมือถูกกฎหมายใดๆ ก็ตามเพื่อส่งเสริมความพยายามของเขาที่จะคุ้มครองชายแดน
...
ด้านนาง แนนซี เพโรซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก และกำลังจะลงอภิปรายร่างกฎหมายฉบับนี้ ออกมาขู่ว่า เดโมแครตจะใช้มาตรการทางกฎหมายหากนายทรัมป์ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ และยืนยันว่า ไม่มีวิกฤติเกิดขึ้นที่ชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก
ทั้งนี้ ภาวะฉุกเฉินแห่งชาติเป็นมาตรการที่จะถูกประกาศในภาวะวิกฤติ สำหรับในกรณีนี้นายทรัมป์อ้างว่า วิกฤติกำลังเกิดขึ้นด้วยการมาถึงของผู้อพยพจำนวนมากบริเวณชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติจะทำให้ประธานาธิบดีเข้าถึงอำนาจพิเศษ ที่ทำให้เขาสามารถหลักเลี่ยงกระบวนการทางการเมืองตามปกติได้