สำนักข่าวเอพีรายงานเมื่อ 13 ก.พ.ว่า สหรัฐฯ และรัสเซียต่างแยกกันร่างมติเพื่อนำเสนอต่อสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ว่าด้วยวิกฤติในเวเนซุเอลา หลังสหรัฐฯ และอีกกว่า 50 ประเทศ ประกาศสนับสนุนนายฮวน กวยโด ผู้นำฝ่ายค้าน ประธานสมัชชาแห่งชาติ (รัฐสภา) ซึ่งตั้งตนเป็นประธานาธิบดีรักษาการของเวเนฯ ตั้งแต่ 23 ม.ค. ส่วนรัสเซีย จีน และอีกหลายชาติ สนับสนุนประธานาธิบดีนิโกลาส มาดูโร

ร่างมติของสหรัฐฯ แสดงความวิตกกังวลยิ่งที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีเวเนฯ เมื่อ 20 พ.ค.2561 ไม่เสรีและยุติธรรม เรียกร้องให้เริ่มกระบวนการทางการเมืองโดยทันทีเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ที่เสรี ยุติธรรม น่าเชื่อถือ มีนานาชาติร่วมสังเกตการณ์ ส่วนร่างมติของรัสเซียวิพากษ์วิจารณ์ความพยายามแทรกแซงกิจการภายในของเวเนฯ แสดงความวิตกกังวลต่อการขู่ใช้กำลังทหารในเวเนฯ เรียกร้องให้แก้ทางตันโดยสันติ แต่ร่างมติทั้ง 2 ฉบับยังไม่ส่งถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) แต่ถ้าถูกส่ง คาดว่าสหรัฐฯ และรัสเซีย ซึ่งต่างเป็นสมาชิกถาวรของยูเอ็นเอสซี จะใช้สิทธิยับยั้ง (วีโต) มติของกันและกัน

ส่วนนายฮอร์เก อาร์เรียซา รมว.ต่างประเทศเวเนฯ เผยว่า ตนได้แจ้งนายแอนโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็นว่า รัฐบาลมาดูโรต้องการร่วมมือกับยูเอ็นในเรื่องเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของนานาชาตินำโดยสหรัฐฯ ย้ำว่าเวเนฯ ไม่มีวิกฤติมนุษยธรรม และไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือด้านอาหารและยาจากยูเอ็น ขอให้ประชาคมโลกสนับสนุนการยกเลิกการคว่ำบาตรเวเนฯ และมาดูโรต้องการเลี่ยงการก่อรัฐประหารหรือแทรกแซงจากสหรัฐฯ เพราะจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงคล้ายสมัยสงครามเวียดนาม

ด้านกวยโดประกาศขีดเส้นตายนำความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่เวเนฯ ให้ได้ภายใน 23 ก.พ.นี้ และจะตั้งศูนย์รวบรวมความช่วยเหลือที่บราซิลด้วย นอกเหนือจากที่โคลอมเบีย หลังกองทัพเวเนฯ ตั้งสิ่งกีดขวางพรมแดนบนสะพานเชื่อมโคลอมเบีย ส่วนมาดูโรปฏิเสธไม่รับความช่วยเหลือ ชี้ว่าเป็นความพยายามของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯที่จะก่อรัฐประหารในเวเนฯ เพื่อหวังน้ำมันของเวเนฯ

...

กวยโดยังนัดชุมนุมประท้วงใหญ่ทั่วประเทศใน 13 ก.พ.เพื่อบีบให้มาดูโรสละอำนาจและยอมให้ความช่วยเหลือเข้าสู่เวเนฯ เขายังเสนออภัยโทษให้ทหารที่ช่วยโค่นล้มมาดูโร และชี้ว่าการไม่ให้ความช่วยเหลือเข้าสู่เวเนฯ เป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ขณะที่ รมช.ต่างประเทศรัสเซีย เผยว่ารัสเซียพร้อมอำนวยความสะดวกให้มีการเจรจาระหว่างรัฐบาลมาดูโรกับฝ่ายค้าน แต่เตือนไม่ให้สหรัฐฯ แทรกแซงกิจการภายในเวเนฯ ส่วนจีนแถลงว่า รายงานข่าวที่ว่าจีนไปเจรจากับฝ่ายค้านเพื่อรักษาการลงทุนของจีนในเวเนฯ เป็นข่าวปลอม.