พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรส สามารถบรรลุข้อตกลงในหลักการเรื่องมาตรการความมั่นคงชายแดนและหลีกเลี่ยงภาวะ “ชัตดาวน์” รอบใหม่ หลังการเจรจาลับในกรุงวอชิงตันหลายชั่วโมงเมื่อค่ำวันที่ 11 ก.พ. โดยข้อตกลงรวมทั้งจะให้งบฯ 1,375 ล้านดอลลาร์ สร้างแนวกีดขวางรวมทั้งรั้วเสาเหล็กกั้นพรมแดนเม็กซิโก ยาว 55 ไมล์ (88 กม.) ที่เมืองริโอ แกรนด์ ในรัฐเท็กซัส แต่ยังห่างไกลจากงบฯ 5,700 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างกำแพงกั้นพรมแดนเม็กซิโกยาว 215 ไมล์ ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต้องการ
ก่อนหน้านี้ 1 วัน การเจรจาถึงทางตัน เพราะฝ่ายเดโมแครตเรียกร้องให้จำกัดจำนวนผู้อพยพผิดกฎหมายที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (ไอซีอี) ต้องกักตัวไว้ให้อยู่ที่ 16,500 คน แต่สุดท้าย ตกลงกันได้ให้มีเตียงรองรับผู้อพยพในศูนย์กักกันของไอซีอี 40,250 เตียง ลดลงจาก 49,057 เตียงในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้ต้องผ่านการรับรองจากสภาคองเกรสและทรัมป์ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย ซึ่งยังไม่แน่ว่าทรัมป์จะลงนามหรือไม่
ด้านทรัมป์กล่าวในที่ชุมนุมหาเสียงที่เมืองเอล ปาโซ รัฐเท็กซัส ใกล้พรมแดนเม็กซิโก ว่า ตนไม่มีเวลาศึกษาข้อตกลงนี้ แต่ย้ำว่าจะไม่มีวันลงนามกฎหมายที่บังคับให้ปล่อยตัวอาชญากรที่ก่อความรุนแรงจำนวนมาก ซึ่งหมายถึงผู้อพยพผิดกฎหมาย และยืนยันว่ายังไงๆก็ต้องสร้างกำแพงกั้นพรมแดนเม็กซิโกให้ได้
ทั้งนี้ ภาวะชัตดาวน์รอบที่แล้วยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 35 วัน ทำให้พนักงานของหน่วยงาน รัฐบาลบางส่วนราว 800,000 คนต้องหยุดงานหรือทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง สร้างความสูญเสียต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ราว 11,000 ล้านดอลลาร์ ก่อนทรัมป์ถูกกดดันอย่างหนักจนยอมลงนามอนุมัติงบฯ ยุติภาวะชัตดาวน์ชั่วคราว 3 สัปดาห์เมื่อ 25 ม.ค. เพื่อเปิดโอกาสเจรจาและตกลงกันภายใน 15 ก.พ.นี้ ถ้าไม่สำเร็จก็จะมีการชัตดาวน์อีกครั้ง
...
ระหว่างการชุมนุมที่เอล ปาโซ ผู้สนับสนุนของทรัมป์คนหนึ่งตะโกนด่าและปรี่เข้าผลักนายรอน สคีนส์ ช่างภาพสำนักข่าวบีบีซีจนเกือบล้ม หลังทรัมป์ปราศรัยโจมตีสื่อฯอย่างรุนแรง ด้านเหล่าซีอีโอ และผู้บริหารบริษัทใหญ่ๆในสหรัฐฯกว่า 100 คน รวมทั้ง บ.เยนเนอรัล มอเตอร์ส, เฟซบุ๊ก, โคคา โคลา, แอปเปิล, แอมะซอน, กูเกิล, ไมโครซอฟท์ ร่วมลงนามในจดหมายเปิดผนึก ส่งถึงสภาคองเกรส เรียกร้องให้ปกป้องผู้อพยพที่ถูกพ่อแม่ผู้ปกครองพาเข้าสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมายตั้งแต่วัยเด็ก ซึ่งเรียกว่าพวก “ดรีมเมอร์ส” โดยระบุว่าพวกเขาช่วยสร้างเสริมเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเป็นแรงงานผู้ทุ่มเท.