ทางการฟิลิปปินส์ประกาศการระบาดของโรคหัดในหลายพื้นที่ของประเทศ เนื่องจากจำนวนเด็กได้รับวัคซีนลดลงทุกปี โดยมีผู้เสียชีวิต 26 ราย และป่วยอีกนับพันคน...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการประเทศฟิลิปปินส์ ประกาศว่าเกิดภาวะการระบาดของไวรัสโรคหัด ซึ่งมีฤทธิ์ติดต่อสูงมากในหลายพื้นที่รวมทั้งในเมืองหลวงกรุงมะนิลา โดยข้อมูลจนถึงวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมาชี้ว่ามีผู้ป่วยโรคหัดแล้ว 1,813 ราย เสียชีวิตไปแล้ว 26 ราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 74%

โรคหัดเป็นอันตรายอย่างมากต่อเด็กเล็กและทารก ซึ่งสถานการณ์ในฟิลิปปินส์ตอนนี้นับว่าน่ากังวลมาก เพราะมีเด็กที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนมากถึง 2.4 ล้านคน หลังจากเกิดกรณีของวัคซีนโรคไข้เลือด ‘เดงวาเซีย’ (Dengvaxia) ซึ่งทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนจนอาการหนักขึ้น จนพ่อแม่ลังเลไม่กล้าพาลูกไปฉีดวัคซีนโรคหัด

ดร.กุนโด เวลเลอร์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำฟิลิปปินส์ กล่าวว่า อัตราการฉีดวัคซีนในแดนตากาล็อกต่ำกว่าเป้าหมายที่ 95% และกำลังลดลงเรื่อยๆ โดยในปี 2559 มีเด็กฉีดวัคซีนราว 75% ก่อนจะลดลงเหลือ 60% ในปีต่อมา และคาดว่าจะลดลงอีกในปี 2561

“นี่เป็นเหตุการณ์ที่เรามีเด็กที่ไม่ได้รับการป้องกันและอ่อนไหวต่อโรคหัดเพิ่มจำนวนสะสมมาเรื่อยๆ” ดร.เวลเลอร์ กล่าว

ด้านนายฟรานซิสโก ดูเก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์เรียกร้องให้พ่อแม่พาลูกมาฉีดวัคซีน เพราะอาการปอดและหลอดลมอักเสบอันเป็นอาการแทรกซ้อนของโรคหัดนั้นอันตรายถึงตาย.