ตำรวจญี่ปุ่นสืบสวนคดีเด็กหญิงวัย 10 ขวบถูกพ่อทารุณกรรมจนเสียชีวิต พบว่าเจ้าหน้าที่รัฐทำงานหละหลวมจนปกป้องเด็กไม่ได้ ขณะที่ผู้เป็นแม่ก็ไม่กล้าช่วยลูก เพราะกลัวถูกทำร้าย...
สื่อในญี่ปุ่นรายงานความคืบหน้าการสืบสวนคดีการเสียชีวิตของเด็กหญิง คุริฮาระ มิอะ อายุ 10 ปี หลังจากถูกพ่อแท้ๆ ทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง โดยเจ้าหน้าที่พบการทำงานที่ผิดพลาดของเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม จนไม่อาจปกป้องชีวิตของเด็กเอาไว้ได้ ขณะที่แม่เด็กซึ่งถูกจับกุมฐานสมรู้ร่วมคิด ยอมรับว่าไม่ช่วยเหลือลูกสาวเพราะกลัวถูกสามีทำร้าย
ตามรายงานของสำนักข่าว เจแปนทูเดย์ เจ้าหน้าที่พบสาเหตุที่มิอะถูกส่งตัวกลับบ้านพ่อแม่ ทั้งที่เธอถูกส่งไปอยู่บ้านของญาติ หลังเขียนแบบสอบถามขอความช่วยเหลือเมื่อปลายปี 2560 แล้ว โดยเป็นเพราะพ่อของเธอบังคับให้เธอเขียนจดหมายบอกว่า เธอโกหกเรื่องที่ถูกพ่อทำร้าย
ศูนย์ให้คำปรึกษาเด็กเมืองคาชิวะ จังหวัดชิบะ เปิดเผยในวันอังคารที่ 5 ก.พ. ว่า นายยูอิจิโระแสดงจดหมายลายลักษณ์อักษรของ ด.ญ.มิอะให้พวกเขาดูในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ในช่วงที่ทางศูนย์กำลังพิจารณาว่าเด็กควรถูกส่งกลับบ้านหรือไม่ โดยจดหมายซึ่งมีลายเซ็นของ ด.ญ.มิอะมีเนื้อความว่า “หนูโกหกว่าหนูถูกพ่อทุบตี หนูบอกกับครูโรงเรียนประถมโดยไม่ได้คิด และสร้างปัญหามากมายให้กับพ่อ, แม่, น้องสาว และญาติๆ หนูขอโทษ” จดหมายยังระบุว่า มิอะอยากอยู่กับพ่อแม่กับน้องสาว และไม่อยากพบเจ้าหน้าที่ศูนย์ให้คำปรึกษาเด็กฯ อีก
เพียง 2 วันหลังจากนั้น ศูนย์ให้คำปรึกษาเด็กฯ ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวสำหรับเด็กด้วย ก็ตัดสินใจในที่ประชุมให้มิอะออกจากบ้านญาติแล้วกลับไปอยู่กับพ่อแม่และน้องสาววัย 1 ขวบตามเดิม อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มิอะย้ายกลับบ้านพ่อแม่ในเดือนมีนาคม 2561 เธอก็บอกกับเจ้าหน้าที่คนหนึ่งในโรงเรียนว่า พ่อของเธอเป็นผู้บังคับให้เขียนจดหมายดังกล่าวขึ้นมา
...
นายนิเฮอิ ฮิโตชิ หัวหน้าศูนย์ให้คำปรึกษาเด็กฯ กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อ 5 ก.พ.ว่า ตอนนั้นเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ คิดว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่จดหมายดังกล่าวจะเป็นสิ่งที่พ่อบังคับให้เด็กเขียน แต่พวกเขากลับไม่ได้ถามเด็กว่าเขียนจดหมายโดยสมัครใจหรือไม่ ก่อนจะตัดสินใจส่งเด็กกลับบ้าน “หน้าที่ของเราคือการปกป้องเด็กๆ เรารู้สึกเสียใจจริงๆ”
นี่นับเป็นความผิดพลาดซ้ำสองของเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่น หลังก่อนหน้านี้ คณะกรรมการศึกษาธิการเมืองโนดะเพิ่งออกมายอมรับว่า ให้พ่อ ด.ญ.มิอะดูสำเนาแบบสอบถามที่เด็กเขียนเปิดเผยเรื่องถูกพ่อทำร้าย ทั้งที่เป็นเอกสารลับ เนื่องจากทนแรงกดดันไม่ไหว
ทั้งนี้ ด.ญ.มิอะ ถูกพบเป็นศพในห้องอาบน้ำของอพาร์ตเมนต์ในเมืองโนดะ จังหวัดชิบะ ใกล้กรุงโตเกียว เมื่อ 24 ม.ค. ก่อนที่ตำรวจจะจับกุม นายคุริฮาระ ยูอิจิโระ ผู้เป็นพ่ออายุ 41 ปีในวันต่อมา ในฐานะผู้ต้องสงสัยทำให้มิอะบาดเจ็บจนถึงแก่ความตาย ก่อนจะจับกุมนางคุริฮาระ นากิสะ มารดาอายุ 31 ปี เมื่อวันจันทร์ที่ 4 ม.ค. เนื่องจากอาจมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
ขณะที่ผลการชันสูตรศพชี้ว่า ในกระเพาะของเด็กแทบไม่มีอาหารอยู่เลย บ่งชี้ถึงการอดอาหาร แม้ว่าน้ำหนักตัวของเด็กจะไม่ต่ำกว่ามาตรฐานมากนักก็ตาม โดยที่แม่ของเด็กซึ่งถูกตำรวจสอบปากคำครั้งแรกในวันอังคาร สารภาพว่าสามีกำชับกับเธอว่าห้ามให้อาหารลูกหลายวันก่อนที่เด็กจะเสียชีวิต
แม่ของ ด.ญ.มิอะยอมรับด้วยว่า เธอควรจะปกป้องลูกสาวของเธอ แต่เธอก็ไม่ทำเพราะคิดว่าเธอจะรอดจากการถูกสามีทำร้ายหากให้ลูกสาวตกเป็นเป้าหมายแทน โดยครูประจำชั้นของมิอะบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า นางนากิสะถูกสามีซ้อมตั้งแต่สมัยอยู่ที่จังหวัดโอกินาวา ก่อนย้ายมาจังหวัดชิบะแล้ว
ก่อนหน้านี้ นายยูอิจิโระบอกกับตำรวจว่า ในวันที่ 24 ม.ค. เขาให้ลูกสาวยืนตั้งแต่เวลา 10.00 น. โดยเชื่อว่าการกระทำของตัวเองไม่ผิดเพราะเป็นเพียงการอบรมสั่งสอน เจ้าหน้าที่ยังสงสัยว่าเขาทำร้ายร่างกายลูกสาวตั้งแต่เวลา 10.00-11.10 น. วันเดียวกัน ด้วยวิธีต่างๆ รวมทั้งราดน้ำเย็นใส่ลูกสาวเป็นเวลานานด้วย.