กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณี ‘ฮาคีม’ หวัง รบ.ออสเตรเลีย-บาห์เรน ร่วมกันหาทางออก อย่าผลักภาระทางอ้อมมาให้ไทย ที่จับพลัดจับผลูมาอยู่ในประเด็นปัญหานี้
จากกรณีที่ นายฮาคีม อัลอาไรบี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน วัย 25 ปี ถูกทางการไทยจับกุมที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ตาม ‘หมายแดง’ ของสำนักงานตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) เมื่อ พ.ย.2561 และขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการทางกระบวนการยุติธรรมเพื่อพิจารณาคดีส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ตามคำขอของรัฐบาลบาห์เรน ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากหลายฝ่าย อาทิ รัฐบาลออสเตรเลีย และองค์กรระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน สมาพันธ์ฟุตบอลออสเตรเลีย และฟีฟ่า ให้ทางการไทยปล่อยตัว นายฮาคีม กลับมายังออสเตรเลีย เนื่องจากได้รับสถานะผู้ลี้ภัย และเป็นผู้มีถิ่นพำนักถาวรในออสเตรเลียนั้น
เมื่อ 6 ก.พ.62 กระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงในเรื่อง ‘นายฮาคีม อัลอาไรบี กับปัญหาระหว่างออสเตรเลียกับบาห์เรน’ มีข้อความดังนี้:
1. ประเทศไทยไม่รู้จักนายฮาคีม ไม่มีอคติต่อตัวบุคคล และคงไม่ยุ่งเกี่ยวกับการมาไทยจนถูกคุมตัวจับกุมของนายฮาคีม หากไม่ใช่ Interpol ของออสเตรเลียที่ได้แจ้งเตือนเรื่องหมายแดงของนายฮาคีมแต่แรก ซึ่งไทยได้ดำเนินการตามขั้นตอน คือ ให้จับเพื่อส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดน และหากทางการบาห์เรนไม่ได้มีคำร้องขออย่างเป็นทางการจากรัฐบาลให้จับกุมนายฮาคีมและส่งผู้ร้ายข้ามแดน
2. ทางการออสเตรเลียใช้เวลาหลายวัน หลังจากที่นายฮาคีมเดินทางถึงไทยในการแจ้งการยกเลิกหมายแดง ซึ่งในขณะนั้นกระบวนการทางกฎหมายในไทยได้เริ่มขึ้นแล้วและไม่สามารถย้อนกลับได้
3. ขณะนี้เรื่องได้เข้าสู่กระบวนการศาลแล้ว ในการเดินตามขั้นตอนของกฎหมาย ฝ่ายบริหารไม่สามารถแทรกแซงฝ่ายตุลาการได้ซึ่งเป็นหลักสากล และเชื่อว่าออสเตรเลียก็ยึดถือหลักการนี้เช่นเดียวกัน
...
4. ขออย่าได้ด่วนสรุปว่าไทยจะส่งตัวนายฮาคีมให้กับบาห์เรน เรื่องนี้ศาลจะพิจารณาตามหลักฐานที่มีอยู่ ซึ่งมีพื้นฐานจากหมายจับ/หมายศาลของบาห์เรน เมื่อเขาหนีความผิดตามกฎหมายของประเทศบาห์เรนมา และบาห์เรนได้ขอให้คุมตัวเมื่อมาไทย พร้อมกับส่งเอกสารหลักฐานทางกฎหมายให้ฝ่ายไทย พนักงานอัยการพิจารณาแล้วเห็นว่าเข้าเกณฑ์ตามกฎหมายที่จะส่งฟ้องต่อศาลได้ จึงดำเนินการต่อไปแล้ว

5. ขณะเดียวกันศาลไทยพร้อมรับหลักฐานทุกชิ้นทุกชนิดที่เป็นข้อเท็จจริงและเป็นธรรมต่อนายฮาคีม ที่ทนายของนายฮาคีมจะนำส่งให้ศาลพิจารณา
6. ไม่มีส่วนใดของไทยที่จะได้ประโยชน์จากการควบคุมตัวนายฮาคีม แต่ในฐานะรัฐอธิปไตยที่มีพันธะทางกฎหมายและความถูกต้องต่อสังคมโลก ไทยได้มาพบว่าเพื่อนที่ดีของไทย 2 ประเทศเกิดแย่งตัวบุคคลคือนายฮาคีมที่มาประเทศไทย ในภาวะดังกล่าวไทยมีทางเดินอันชอบธรรมเพียงว่า (1) ให้ความร่วมมือทางด้านกฎหมายและ (2) เสนอแนะให้เพื่อนที่ดีทั้งสองนี้ ซึ่งโดยข้อเท็จจริงทั้งสองฝ่ายก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันด้วย หันหน้าหารือ หาทางออกในปัญหาซึ่งเป็นของตนเองเสีย แทนการผลักดันหาทางออกทางอ้อมจากไทยซึ่งเผอิญจับพลัดจับผลูมาอยู่ในภาพของประเด็นปัญหานี้ ซึ่งเพื่อน 2 ประเทศของไทยมีระหว่างกันมาแต่ก่อน
7. การขอให้ออสเตรเลียกับบาห์เรนคุยกัน หาทางออกร่วมกัน จึงเป็นท่าทีโดยชอบธรรมของไทย และไม่ว่าแนวทางออกร่วมกันดังกล่าวจะมาในรูปแบบใด ไทยก็ยินดีจะช่วยส่งเสริมให้เป็นจริงและบรรลุผลสัมฤทธิ์ที่เป็น win-win
8. ไทยหวังว่าทั้งออสเตรเลียและบาห์เรนจะมีมิตรไมตรีที่ดีเพียงพอที่จะร่วมกันหาทางออกของเรื่องนี้ด้วยความจริงใจ หากผลลัพธ์เป็น win-win เชื่อได้แน่นอนว่า คนไทยและผู้คนในภาคส่วนต่างๆ ของโลกที่รับรู้เรื่องนี้จะสรรเสริญทั้งออสเตรเลียและบาห์เรนอย่างแน่นอน.
อ่านข่าว