ปธน.ปูติน กร้าวตอบโต้ทรัมป์ทันควัน ประกาศระงับสนธิสัญญาขีปนาวุธพิสัยกลางที่เคยทำร่วมกับสหรัฐฯ ตั้งแต่ 30 ปีก่อนลั่นรัสเซียจะเดินหน้าพัฒนามิสไซล์ หลังทรัมป์ขู่จะถอนตัวสนธิสัญญานี้ใน6เดือนหน้า
เมื่อ 2 ก.พ.62 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียตอบโต้รัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯทันที ประกาศระงับข้อผูกมัดในสนธิสัญญาด้านขีปนาวุธพิสัยกลาง (Intermediate-range Nuclear Force Treaty-INF)กับสหรัฐฯแล้ว เมื่อวันเสาร์ที่ 2 ก.พ.62 (ตามเวลาท้องถิ่น) หลังจากรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ประกาศอย่างเป็นทางการก่อนหน้าเมื่อวันศุกร์ที่ 1 ก.พ.62 สหรัฐฯจะถอนตัวจากสนธิสัญญานี้ภายใน 6เดือนข้างหน้า หากรัสเซียยังไม่ยุติการละเมิดข้อตกลงในสนธิสัญญาที่ทำร่วมกันไว้กับสหรัฐฯเมื่อ30ปีก่อน
...
ประธานาธิบดีปูตินยังกล่าวด้วยว่า รัสเซียจะเริ่มต้นการพัฒนาขีปนาวุธชนิดใหม่อีกด้วย ‘หุ้นส่วนของเราชาวอเมริกันได้ประกาศกำลังระงับข้อผูกมัดในสนธิสัญญาฉบับนี้ และเราก็กำลังระงับข้อผูกมัดในสนธิสัญญาฉบับนี้เช่นกัน’ ประธานาธิบดีปูตินกล่าว แต่ยังคงเปิดประตูพร้อมเจรจากับสหรัฐฯ ในเรื่องนี้
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้กล่าวยืนยันเมื่อเดือนตุลาคม 2561แล้วว่า สหรัฐฯ จะถอนตัวจากสนธิสัญญาด้านขีปนาวุธพิสัยกลาง (Intermediate-range Nuclear Force Treaty-INF) ซึ่งอดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน แห่งสหรัฐฯ และอดีตประธานาธิบดีมิคาอิล กอร์บาชอฟ ของอดีตสหภาพโซเวียต บรรลุข้อตกลงร่วมกันในช่วงสงครามเย็นเมื่อปี 1987 โดยประธานาธิบดีทรัมป์ให้เหตุผลว่ารัสเซียละเมิดข้อตกลงนี้และเป็นฝ่ายทำผิดกฎกติกาก่อน พร้อมกล่าวด้วยว่าสหรัฐฯ จำเป็นต้องพัฒนาอาวุธของตนเช่นกัน
บีบีซี รายงานว่า ภายใต้สนธิสัญญาด้านขีปนาวุธพิสัยกลางนั้น สหรัฐฯ และรัสเซียตกลงที่จะห้ามการผลิตขีปนาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมด รวมทั้งขีปนาวุธที่ไม่ได้ติดหัวรบนิวเคลียร์ทั้งพิสัยใกล้และพิสัยกลาง ยกเว้น ขีปนาวุธที่ถูกยิงจากทะเล โดยภายในปี 1991 มีขีปนาวุธเกือบ 2,700 ลูกถูกทำลายแล้ว ขณะที่ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ เกิดขึ้นหลังจากสหรัฐฯ ได้ถอนตัวจากสนธิสัญญาต่อต้านขีปนาวุธในปี 2545