สื่ออังกฤษ รายงานทั่วโลก วิกฤติฝุ่นพิษในกรุงเทพฯ กำลังทำให้ผู้คนไอเป็นเลือด ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัยเวลาออกนอกบ้าน ขึ้นรถโดยสารสาธารณะ
เมื่อ 2 ก.พ.62 เว็บไซต์ Metro สื่อในอังกฤษ รายงานพาดหัวข่าวบนหน้าเว็บไซต์ แจ้งเตือนถึงสถานการณ์ฝุ่นพิษในกรุงเทพฯ โดยพาดหัวข่าวว่า ‘ฝุ่นพิษหนาทึบกำลังทำให้ผู้คนไอเป็นเลือดในวิกฤติมลพิษที่กรุงเทพมหานคร’ พร้อมกับระบุว่า จากปัญหาสภาพการจราจรติดขัดอย่างหนัก โรงงานปล่อยมลพิษ และการก่อสร้างที่ไม่สามารถควบคุมได้ กำลังเป็นเรื่องที่ถูกตำหนิว่าเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศในกรุงเทพฯ เมืองหลวงของไทยในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จนทำให้บางคนถึงกับไอเป็นเลือด และสัตว์เลี้ยงไม่สบาย
สื่ออังกฤษ รายงานว่าขณะนี้ ผู้คนในกรุงเทพฯ ได้เร่ิมป้องกันมลพิษด้วยการสวมหน้ากากอนามัยกันฝุ่นพิษเวลาเดินอยู่ริมถนนหรือใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ โดยเจ้าหน้าที่ไทยได้มีการทำฝนเทียม และฉีดพ่นน้ำเพื่อจับฝุ่นพิษ PM2.5 ในอากาศ พร้อมกับขอร้องประชาชนไม่จุดธูปหรือเผากระดาษเงินกระดาษทองในเทศกาลตรุษจีนที่กำลังมาถึง
...
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันพุธที่ 30 ม.ค.62 สำนักงานกรุงเทพมหานครได้ยกระดับเตือนภัยด้านสุขภาพ ด้วยการสั่งปิดโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร 434 โรงตั้งแต่เที่ยงวันพุธที่ 30 ม.ค.จนถึงวันศุกร์ที่ 1 ก.พ. 62 และประกาศให้พื้นที่ 50 เขตในกทม.เป็นพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ โดยผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่าสถานการณ์ฝุ่นพิษในกรุงเทพฯจะเลวร้ายจนถึงวันที่ 3-4 ก.พ.62
เว็บไซต์ Metro ยังรายงานด้วยว่า เว็บไซต์ Air Visual รายงานการตรวจวัดดัชนีคุณภาพทางอากาศ (AQI) เมื่อวันพุธที่ 30 ม.ค.ว่า อยู่ที่ 171 ซึ่งเป็นระดับ ‘อันตรายต่อสุขภาพ’ สูงกว่ากลางเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ที่ดัชนี AQI อยู่ที่ 156
สื่ออังกฤษ ชี้ว่า ค่า PM 2.5 ในกรุงเทพฯ บางวัน มีค่าสูงกว่าหลายเมืองในประเทศจีนที่ประสบวิกฤติฝุ่นพิษ แต่ยังต่ำกว่าในกรุงนิวเดลี เมืองหลวงอินเดีย ขณะที่นายเอ็ดเวิร์ด ฮวง นักท่องเที่ยวหนุ่มชาวไต้หวัน วัย 28 ปีที่สวมหน้ากากอนามัยขณะมาเที่ยวในกรุงเทพฯ กล่าวว่า วิกฤติฝุ่นพิษอาจทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติยกเลิกการมาเที่ยวกรุงเทพฯได้ ในขณะที่วิกฤติฝุ่นพิษได้เริ่มถูกหยิบยกขึ้นเป็นประเด็นทางการเมือง ขณะที่ประเทศไทยเตรียมจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 24 มีนาคม ซึ่งเป็นการเลือกตั้งครั้งแรก หลังเกิดรัฐประหาร ทหารยึดอำนาจมาตั้งแต่ปี 2557