กลุ่มไอซิส อ้างความรับผิดชอบ วางระเบิดถล่มโบสถ์คริสต์ 2 ลูกซ้อน ที่เมืองโจโล ทางภาคใต้ฟิลิปปินส์ ตาย 20 เจ็บนับร้อย ขณะที่องค์กรความร่วมมือชาติอิสลามออกโรงประณามความรุนแรง

เมื่อ 28 ม.ค.62 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เว็บไซต์ Amaq สื่อของกลุ่มมุสลิมติดอาวุธหัวรุนแรง ‘รัฐอิสลาม’ หรือไอซิส ประกาศ กลุ่มไอซิสอ้างความรับผิดชอบ อยู่เบื้องหลังเหตุวางระเบิดสะเทือนขวัญ 2 ลูกซ้อน โจมตีโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ในเมืองโจโล บนเกาะโจโล ทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ขณะชาวคริสต์จำนวนมากมาร่วมพิธีมิสซา เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม 2562 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตสลดอย่างน้อย 20 ราย บาดเจ็บระนาวกว่า 100 คน

รอยเตอร์แจ้งว่า เหตุระเบิดโจมตีถล่มโบสถ์คริสต์‘Cathedral of Our Lady of Mouth Carmel’ ที่เมืองโจโล บนเกาะโจโล ซึ่งถือเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธ อาบูไซยาฟ ในฟิลิปปินส์ ซึ่งได้ประกาศสวามิภักดิ์ต่อกลุ่มไอซิสนั้น นับเป็นเหตุการณ์รุนแรงครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งที่เกิดขึ้นในฟิลิปปินส์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว

...

ด้านรัฐบาลฟิลิปปินส์ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตรเต ประกาศจะปราบปรามกลุ่มติดอาวุธที่อยู่เบื้องหลังเหตุรุนแรงครั้งนี้ให้จงได้ หลังลงมือก่อเหตุวางระเบิดสะเทือนขวัญเพียง 6 วัน หลังทางการฟิลิปปินส์จัดลงประชามติรับรองการจัดตั้งเขตปกครองตนเองในพื้นที่บางส่วนบนเกาะมินดาเนา เพื่อหวังยุติปัญหารุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ที่ดำเนินมานานหลายทศวรรษ

อ่านข่าว>>ปินส์ช็อก บึมโบสถ์คริสต์ ตายเจ็บอื้อ เซ่นลงประชามติตั้งเขตปกครองตนเอง

ขณะที่ เว็บไซต์ วอชิงตัน โพสต์ แจ้งว่า องค์กรความร่วมมืออิสลาม หรือ OIC ซึ่งเป็นความร่วมมือของกลุ่มประเทศ 57 ประเทศ ซึ่งประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ได้ออกมาประณามอย่างรุนแรงต่อกลุ่มติดอาวุธที่ลงมือก่อเหตุเหตุการณ์วางระเบิดโจมตีโบสถ์คริสต์ 2 ครั้งซ้อนที่เมืองโจโลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยเลขาธิการ OIC กล่าวด้วยว่า OIC มีจุดยืนในการปฏิเสธการก่อเหตุรุนแรงทุกรูปแบบ รวมทั้งลัทธิหัวรุนแรง และการก่อการร้าย ไม่ว่าจะมีแรงจูงใจมาจากอะไรก็ตาม.