นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกตัวแรกเกิดขึ้นบนโลกเมื่อ 350 ล้านปีที่แล้ว และสัตว์มีกระดูกสันหลังและมีถุงน้ำคร่ำที่เรียกว่าแอมนิโอต (amniote) เป็นสัตว์ในกลุ่มสัตว์เลื้อยคลานชนิดแรกเกิดขึ้นเมื่อราว 310 ล้านปีก่อน ซึ่งในปี พ.ศ.2543 มีการค้นพบซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิล (fossil) โครงกระดูกแอมนิโอตชนิดหนึ่งระบุว่ามีอายุ 290 ล้านปี พบในเหมืองโบรมอัคเคอร์ (Bromacker) ทางตอนกลางของเยอรมนี ที่น่าสนใจคือซากฟอสซิลนี้มีสภาพสมบูรณ์สวยงามและนำไปต่อยอดการศึกษาได้หลากหลาย
ซากฟอสซิลนี้มีชื่อว่า โอโรบาเตซ ปาปสตี (Orobates pabsti) เป็นสัตว์กินพืช 4 ขาที่มีชีวิตอยู่มาก่อนไดโนเสาร์ถือกำเนิด เป็นไปได้ว่าโอโรบาเตซ ปาปสตี จะอยู่ในกลุ่มสัตว์เลื้อยคลาน ต่อมาก็พัฒนาเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสมัยใหม่, นก และสัตว์เลื้อยคลานในปัจจุบัน แต่สิ่งที่นักชีววิทยาวิวัฒนาการจากมหาวิทยาลัยฮุมบอลท์ในกรุงเบอร์ลินแห่งเยอรมนี สนใจเกี่ยวกับโอโรบาเตซ ปาปสตี ก็คือการเคลื่อนไหวของมันที่จะไขความกระจ่างเกี่ยวกับวิธีเคลื่อนไหวของสัตว์เลื้อยคลานยุคต้นๆได้
ด้วยความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งชาติสวิส ในนครโลซานน์ สวิตเซอร์แลนด์ ทีมจึงนำโครงกระดูกโอโรบาเตซ ปาปสตี และซากฟอสซิลรอยเท้าของสิ่งมีชีวิตขนาด 90 เซ็นติเมตรที่เก็บไว้ก่อนหน้านี้ มาประยุกต์สร้างหุ่นยนต์จำลองการเคลื่อนไหวโดยเรียกว่าโอโรบอต (OroBOT) ทำงานด้วยมอเตอร์ที่เชื่อมต่อด้วยชิ้นส่วนพลาสติกและเหล็ก พบว่ามันเดินด้วยท่าทางที่ค่อนข้างตรงโดยไม่ได้ลากท้องหรือหาง ซึ่งอาจสรุปได้ว่าสัตว์บกในยุคต้นๆเหล่านี้มีการเคลื่อนไหวที่ก้าวหน้ากว่าที่เคยคิดไว้.
John Nyakatura/Humboldt University via AP
...