(ภาพจากยูทูบ:AP)

สื่อนอกเผยคลิปนาที ลูกสาวประธานบริษัทหัวเว่ย สีหน้าสงบนิ่งสุดๆ หลังได้ประกันตัว ขณะที่ ปธน.ทรัมป์ อาสายื่นมือเข้าแทรกแซงช่วยบุตรสาวประธานหัวเว่ย หากเป็นการรักษาผลประโยชน์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน

เมื่อ 12 ธ.ค.61 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ อาจเข้ามาแทรกแซงกรณีนางสาวเหมิง หวันโจว บุตรสาวของประธานและผู้ก่อตั้งบริษัทหัวเว่ย บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่สุดในจีน อยู่ระหว่างถูกศาลแคนาดาอนุญาตให้ประกันตัว และรอตัดสินจะส่งตัวไปให้สหรัฐฯ หรือไม่ หลังนางสาวเหมิงถูกจับกุมที่นครแวนคูเวอร์ ในแคนาดา เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.61 ตามคำขอของทางการสหรัฐฯ ที่กล่าวหานางสาวเหมิง รองประธานและผู้บริหารการเงินบริษัทหัวเว่ยกระทำผิดทางอ้อม โดยได้ปิดบังความจริงกับธนาคารหลายแห่ง อันเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่ออิหร่าน

ชมคลิป>> ที่นี่

ผู้สื่อข่าว-ช่างภาพไปปักหลักติดตามความเคลื่อนไหวที่บริเวณด้านหน้าบ้านพักของครอบครัวนางสาวเหมิง หวันโจว ที่นครแวนคูเวอร์
ผู้สื่อข่าว-ช่างภาพไปปักหลักติดตามความเคลื่อนไหวที่บริเวณด้านหน้าบ้านพักของครอบครัวนางสาวเหมิง หวันโจว ที่นครแวนคูเวอร์

...

รอยเตอร์แจ้งว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวกับนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันอังคารที่ 11 ธ.ค. 61 ว่า ตนอาจเข้ามาแทรกแซงกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ในกรณีนางสาวเหมิง ถ้าหากเป็นการรักษาผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของประเทศชาติ หรือเป็นการช่วยด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน

ต่อมา นายลู่ กัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงว่า รัฐบาลจีนยินดีต่อความพยายามทุกอย่างของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่จะดำเนินการในการช่วยเหลือนางสาวเหมิง หวันโจว พร้อมกับระบุว่า การที่ทางการแคนาดาจับกุมนางสาวเหมิงนั้น ถือเป็นการกระทำผิดพลาดตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งรัฐบาลจีนยินดีต่อความเคลื่อนไหวทุกอย่างในเรื่องนี้ที่จะมุ่งไปสู่ความถูกต้อง

ด้านสำนักข่าวเอพี ได้เผยแพร่คลิปทางยูทูบ แสดงให้เห็นเหตุการณ์ขณะนางสาวเหมิง  วัย 46 ปี ได้รับการประกันตัวตามคำสั่งของศาลในนครแวนคูเวอร์ของแคนาดา เมื่อวันอังคารที่ 11 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น โดยสีหน้าของนางสาวเหมิงดูเรียบเฉย ขณะถูกกลุ่มผู้สื่อข่าวสอบถามความรู้สึกและความคิดเห็นของเธอต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้

นางสาวเหมิง หวันโจว บุตรสาวผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทหัวเว่ย
นางสาวเหมิง หวันโจว บุตรสาวผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทหัวเว่ย

ทั้งนี้ ศาลแคนาดาได้ตัดสินให้นางเหมิงได้รับการประกันตัว ด้วยวงเงิน 7.4 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 236 ล้านบาท) โดยเธอต้องอยู่ภายใต้การเฝ้าจับตาจากเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชม. รวมถึงการสวมกำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ และห้ามออกนอกเคหสถาน ระหว่างเวลา 23.00-06.00 น. และต้องมอบพาสปอร์ตและหนังสือเดินทางทั้งหมดให้แก่ทางการยึดไว้.

อ่านข่าว