ผู้เขียนเปิดฟ้าส่องโลกขอแสดงความเสียใจและไว้อาลัยต่อการอสัญกรรมของนายจอร์จ เฮอร์เบิร์ต วอล์เกอร์ บุช ประธานาธิบดีคนที่ 41 แห่งสหรัฐอเมริกา (ค.ศ. 1989-1993) ที่ถึงแก่อสัญกรรมด้วยความสงบที่เมืองฮิวส์ตัน รัฐเท็กซัส เมื่อวันศุกร์ 30 พฤศจิกายน 2561 รวมอายุ 94 ปี ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เปิดฟ้าส่องโลกเขียนถึงประธานาธิบดีจอร์จ บุช ผู้พ่อท่านนี้หลายครั้ง วันนี้จึงขอเขียนถึงประวัติท่านอย่างเต็มเพื่อแสดงการไว้อาลัยครับ
บุชเกิดที่เมืองมิลตัน รัฐแมสซาชูเสตต์ และย้ายมาที่เมืองกรีนิช รัฐคอนเนกติกัต บิดาเป็นหุ้นส่วนกิจการผู้มั่งคั่งของบริษัทบราวน์บราเทอส์แฮร์ริแมนแอนด์คัมพานีที่ย่านวอลล์สตรีต เมื่อบิดาอายุ 55 ปีก็ตัดสินใจเลิกธุรกิจเข้าสู่วงการเมืองระดับชาติและได้รับเลือกตั้งเป็นวุฒิสมาชิกแห่งรัฐสภาสหรัฐฯ ครอบครัวนี้มีทั้งปู่ พ่อ และลูกเป็นนักการเมืองระดับชาติ และเป็นประธานาธิบดีถึง 2 คนคือคนที่ 41 และ 43
เมื่ออายุ 18 ปี จอร์จ บุช สมัครเป็นทหารเรือและเข้าเรียนที่โรงเรียนการบิน ก่อนเข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 บุชเป็นนักบินประจัญบานที่อายุน้อยที่สุดในกองทัพเรืออเมริกัน สร้างวีรกรรมจนได้รับเหรียญกล้าหาญหลายครั้ง เมื่อ 2 กันยายน ค.ศ.1944 บุชทิ้งระเบิดทำลายศูนย์การสื่อสารและฐานส่งกำลังบำรุงของกองทัพญี่ปุ่นที่เกาะชิชิจิมะ เครื่องบิน 3 ที่นั่งของบุชถูกยิงตกในมหาสมุทรแปซิฟิก นักบิน 2 คนเสียชีวิต แต่บุชรอดด้วยความช่วยเหลือของเรือดำน้ำอเมริกัน งานนี้ทำให้บุชได้รับเหรียญ Distinguished Flying Cross ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จะยุติ บุชยังได้รับเหรียญกล้าหาญอื่นอีก 3 เหรียญ มีน้อยคนมากที่ได้รับเหรียญกล้าหาญมากขนาดนี้
บุชแต่งงานกับบาร์บารา เพียร์ซ บุตรสาวประธานบริษัทเจ้าของนิตยสาร Mccall’s Magazine และนิตยสาร Red Book Magazine เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติ บุชเข้าเรียนวิชาเศรษฐศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยเยล ได้รับปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับ 1 จบแล้วก็พาครอบครัวไปทำงานในธุรกิจน้ำมันที่รัฐเท็กซัส โดยเริ่มเป็นเสมียนในร้านขายอุปกรณ์ให้กับบริษัทแท่นขุดเจาะน้ำมัน เป็นคนงานประกอบชิ้นส่วน และเป็นคนขายหัวเครื่องขุดเจาะน้ำมัน เมื่อมีความรู้ความชำนาญพอเพียงแล้ว บุชก็ร่วมทุนกับเพื่อนบ้านตั้งบริษัทพัฒนาแหล่งน้ำมันบุช-โอเวอร์เบย์ ดำเนินงานด้านสิทธิสัมปทานทรัพย์สินน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
...
เมื่ออายุ 30 ปี บุชตั้งบริษัทที่เกี่ยวดองหนองยุ่งกับน้ำมันได้มากถึง 3 บริษัท และเมื่อกิจการน้ำมันดำเนินได้มั่นคงแล้ว บุชก็ลาจากวงการธุรกิจมาเป็นนักการเมืองในฐานะสมาชิกพรรครีพับลิกันฝ่ายอนุรักษนิยม บุชขายกิจการน้ำมันและได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐเท็กซัส จากนั้นประธานาธิบดีริชาร์ด เอ็ม. นิกสันตั้งบุชเป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติเป็นเวลา 1 ปี
ประธานาธิบดีเจอรัลด์ อาร์ ฟอร์ด ตั้งบุชเป็นหัวหน้าสำนักงานประสานงานสหรัฐอเมริกาในสาธารณรัฐประชาชนจีน และเมื่อ ค.ศ.1976 บุชกลับมารับตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางหรือซีไอเออยู่นาน 1 ปี ก่อนจะไปสมัครเป็นอาจารย์พิเศษที่มหาวิทยาลัยไรซ์
ค.ศ.1980 โรนัลด์ เรแกน ขอร้องให้บุชลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นรองประธานาธิบดี เรแกนและบุชชนะคู่แข่งอย่างท่วมท้น 8 ปีที่เรแกนและบุชบริหารประเทศสหรัฐฯ ดำเนินงานด้านต่างๆได้อย่างสำเร็จลุล่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านความสัมพันธ์กับต่างประเทศ บุชเดินทางไปเยือนต่างประเทศมากถึง 74 แห่ง ในฐานะผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีเรแกน เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ความอดอยาก ยาเสพติด และการลดกำลังอาวุธของชาติมหาอำนาจ
เมื่อเรแกนเป็นประธานาธิบดีครบ 2 วาระ บุชกับวุฒิสมาชิกแดน เควล ลงสมัครประธานาธิบดี และได้รับเลือกตั้ง แต่บุชไปพ่ายแพ้ บิล คลินตัน จากพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ค.ศ.1992
บาร์บารา บุช ภริยาถึงแก่กรรมเมื่อเดือนเมษายน 2561 เมื่ออายุ 92 ปี ทั้งคู่มีบุตร 6 คน การถึงแก่อสัญกรรมของจอร์จ บุช ทำให้สหรัฐฯ เหลืออดีตประธานาธิบดีที่ยังมีชีวิตอยู่อีกเพียง 4 คน คือ จิมมี คาร์เตอร์ จอร์จ ดับเบิลยู บุช บิล คลินตัน และบารัค โอบามา.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com